อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกาะพะงัน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ ประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที และอยู่ห่างตัวจังหวัด 100 กิโลเมตร เกาะพะงันมีเนื้อที่ 170 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในจำนวน 48 เกาะที่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง ภูมิประเทศของเกาะพะงันมีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทางทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็กอ่าวน้อยเรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู ช่วงมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่านซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว เกาะพะงันมีชายหาดขาว น้ำทะเลใสน่าเล่นน้ำหลายหาด ร่มรื่นด้วยทิวไม้ริมชายหาด ความเงียบสงบของชายหาดต่าง ๆ บนเกาะเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ เกาะพะงัน เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลาช้านาน สันนิษฐานว่าพวกแรกที่มาอยู่บนเกาะพะงันน่าจะเป็นแขกจากมลายูที่อยู่แถบ จังหวัดนครศรีธรรมราชหรือไม่ก็เป็นพวกแขกที่มาจากปัตตานีมาอาศัยทำการประมง เป็นหลัก โดยสังเกตจากชื่อของเกาะและสถานที่บางแห่งบนเกาะ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกาะนางยวน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า เป็นเกาะที่มีเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะเชื่อมกัน สงบ สามารถเห็นหาดทรายเชื่อมกันเวลาที่น้ำลง เป็นเกาะที่มีหาดทรายเนื้อละเอียดขาว น้ำทะเลใส น่านั่งเล่นและพักผ่อนสำหรับผู้ที่นิยมความสงบ เป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่ยังสมบูรณ์และสวยงามที่นักนิยมดำ น้ำมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ บนเกาะยังมีจุดชมวิวที่สามารถจะมองหาดทรายสามหาดเชื่อมต่อกันได้อย่างสวยงาม และมีที่พักเอกชนที่ปลูกอยู่ตามไหล่เขาที่สามารถมองเห็นความงามของท้องทะเล ได้อยู่หนึ่งแห่ง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกาะเต่า | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน 45 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตกรมราชทัณฑ์ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ เกาะเต่ามีประชาชนมาอาศัยตั้งแต่ปี 2490 เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาหลากชนิดสีสวย ๆ มากมายที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำมากมายที่สามารถผลิตนักดำน้ำได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวเกาะเต่า คือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ส่วนช่วงที่มรสุมที่มีฝนและลมแรงคือราวเดือนกันยายนถึงมกราคม บนเกาะมีบังกะโลหลายแบบหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพัก การเดินทางบนเกาะเต่าสามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีบริการ 2 เส้นทาง คือ จากท่าเทียบเรือไปทางทิศเหนือถึงหาดทรายรี และไปทางทิศใต้ถึงอ่าวลึก |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกาะสมุย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก 84 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร ถนนรอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) ยาว 52 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบ ล้อมรอบภูเขา ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงคลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยทรายขาวมีชื่อหลายแห่ง อาทิ หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม นักท่องเที่ยวที่ต้องการหาดทราย ทะเล สายลม และแสงแดด ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล ต้นมะพร้าวริมชายหาดและน้ำทะเลใสสวย ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า อาหารทะเลสด ๆ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ชวนให้นึกถึง นอกจากทะเลสวยน้ำใส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกาะแตน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลตลิ่งงาม บริเวณตอนใต้ของเกาะสมุย เป็นเกาะที่งดงามด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ ชายหาดยาวทิวมะพร้าวเรียงราย ทางฝั่งตะวันออกของเป็นชายหาดยาวขนานกับแนวปะการังชายฝั่ง เรียกว่า อ่าวออก ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นอ่าวปิด มีป่าชายเลนไม่กว้างนักและหาดหิน เรียกว่า อ่าวตก มีแนวปะการังและชายฝั่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์ สิ่งที่น่าสนใจบนเกาะนี้คือไม่มีสุนัขอาศัยอยู่บนเกาะ มีการสันนิฐานกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเพราะเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพารักษ์ไม่ต้องการสุนัข หรือการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เช่น เกาะแตน มีคลื่นเสียง สนามแม่เหล็ก หรือเชื้อโรคบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อสุนัข เป็นต้น จนไม่มีใครกล้าจะนำสุนัขมาลองเลี้ยงดู เพราะไม่เคยมีสุนัขตัวไหนมีชีวิตอยู่รอดได้ นอกจากนั้นบริเวณเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะมัดสุม เกาะมดแดง มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยงามสามารถดำน้ำตื้นได้ บนเกาะมีที่พักบริการนอกจากความสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติบนเกาะแล้ว เกาะแตนยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 4 เส้นทาง ซึ่งทุกเส้นทางนักท่องเที่ยวจะเห็นความแตกต่างของสภาพภูมิประเทศและความเป็น อยู่ของชาวเกาะแตน โดยเฉพาะ 3 เส้นทางแรกจะได้พบกับนกหลากชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะแตน จึงควรที่จะเตรียมกล้องส่องดูนก กล้องถ่ายรูป และสมุดบันทึกติดตัวไปด้วยเพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำและความประทับใจที่ ได้พบ สำหรับเส้นทางที่ 4 เป็นเส้นทางทางทะเล จะได้พบความสวยงามของใต้ทะเลและชายฝั่งของเกาะแตนทั้งบนบกและในน้ำ เส้นทางทั้ง 4 เส้นทาง ได้แก่ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไชยา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ประเภทประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาคารหลังแรกด้านหน้าจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสำริดที่ค้นพบในเมืองไชยา เก่า ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ส่วนอาคารที่สอง เป็นที่จัดแสดงหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวาราวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา นอกจากนี้ยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ อีกมากมาย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และสวนสวยงาม ภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พิพิธภัณฑ์ปลาหิน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พิพิธภัณฑ์ปลาหิน เกิดจากแรงบันดาลใจของนายกิตติ สินอุดม อดีตไต้ก๋งเรือ ที่นำก้อนหินมาแกะสลักเป็นปลาชนิดต่าง ๆ และจัดอย่างเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะของท้องทะเล ภายในพิพิธภัณฑ์ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางทะเลจากกลุ่มแม่บ้านบางน้ำจืด การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช) ผ่านอำเภอกาญจดิษฐ์ ถึงสามแยกบ้านในให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 4942 (บ้านใน-ท่าเรือเฟอร์รี่) ผ่านที่ทำการอำเภอดอนสัก ไปตามเส้นทางไปยังท่าเรือเฟอรร์รี่ เวลาเปิด-ปิด : พิพิธภัณฑ์ปลาหินตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม : คนละ 20 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 7737 1197 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|