WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

บ้านหอมเทียน

บ้านหอมเที่ยนสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ในสวนผึ้ง มีร้านค้ามากมาย ช้อปปิ้ง กิน เที่ยว แบบครบวงจร บ้านหอมเทียนตกแต่ง สไตล์วินเทจ เที่ยวชมของสะสม และของเล่นในอดีต ที่หาชมยากในปัจจุบัน


กรุงเทพ ป่าหวาย สวนผึ้ง

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในอำเภอสวนผึ้ง และเป็นแห่งพักผ่อนทั้งแบบครอบคร้ว บรรยากาศโรแมนติก พร้อมมุมถ่ายรูปมากมาย


New Land

New Land เป็นดินแดนแห่งความสุข ที่จะพาคุณย้อนกลับไปสนุกสดใสเหมือนใน วัยเด็กอีกครั้งกับกิจกรรมที่คอยต้อนรับมากมาย ทั้งขบวนรถไฟเล็กสนุก ที่จะพา ไปชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่สถานที่เลี้ยงแกะ ที่รอให้คุณหนู ๆ มาป้อนนม ให้อาหารและอุ้มถ่ายรูป กันอย่างไกล้ชิด


ตลาดน้ำ Veneto

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในอำเภอสวนผึ้ง และเป็นสถานที่พักผ่อนทั้งแบบครอบคร้ว และคู่รัก บรรยากาศโรแมนติก พร้อมเครื่องเล่นมากมาย มีร้านค้ามากมาย ให้เลือกช้อปปิ้งกัน


โป่งยุบ หุตายน

มหสัจรรย์ทางธรรมชาติ ที่แปลกตา และน่าสงสัย โป่งยุบคืออะไร


ซีนเนอรี่ ฟาร์มแกะ สวนผึ้ง (The Scenery farm)

สถานที่ท่องเที่ยวฟาร์มแกะชื่อดังที่ในสวนผึ้ง สนุกสนานกกับการถ่ายรูป และกิจกรรมให้อาการแกะรวมทั้งร้านอาหารอร่อยและร้านของฝากให้ได้ช้อปปิ้ง
เป็นของที่ระลึกของฟาร์ม


ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อม บรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเริ่มค้าขายตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ 12.00 น. ส่วนตลาดน้ำวัดปราสาทสิทธิ์ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่ยังคงวิถีชีวิตเดิม ๆ อยู่มากจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ และจะวายตั้งแต่ก่อน 08.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอำเภอดำเนินสะดวก โทร. 0 3224 1023, 0 3234 6161 หรือที่เว็บไซต์ www.damnoensaduak.com

การเดินทางถยนต์  จากกรุงเทพฯสามารถเดินทางไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้ 2 เส้นทาง คือ

1. เดินทางไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม เลยกิโลเมตรที่ 83 ไปเล็กน้อย จะพบแยกบางแพ เลี้ยวซ้ายมือไปตามทางหลวงหมายเลข 325 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ข้ามสะพานธนะรัชต์เลยไป 200 เมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก 1  กิโลเมตร

2. เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ระยะทาง 63 กิโลเมตร  เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 325 ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 325 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร  ทางเข้าตลาดน้ำอยู่ก่อนถึงสะพานธนะรัชต์ 200 เมตร และแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร


อุทยานบ้านปลาและสวนผีเสื้อมนชิดา

ตั้งอยู่เลขที่ 90 หมู่ 1 ตำบลหนองอ้อ ทางไปโครงการส่งน้ำนครชุม อยู่ติดหมู่บ้านกรุณาการ์เด้นวิลล์  จัดแสดงพันธุ์ปลาสวยงามแปลกๆ มากมาย ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ อาทิ จากทวีปอเมริกา-ทวีปอัฟริกา  มีการจัดแบ่งบริเวณในพื้นที่เป็นส่วนต่างๆ ทำให้สามารถเดินเที่ยวชมได้สะดวก เช่น อาคารแสดงพันธุ์ปลาสวยงาม อาคารปลาหางนกยูง อาคารปลาเทวดา อาคารปลาทอง อาคารแสดงพันธุ์ปลาหมอแคระ เป็นต้น  และมีการจำลองน้ำตก บ่อปลาและตู้ปลาของพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ  นอกจากนี้ยังมีสวนผีเสื้อมนชิดา ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับวงจรชีวิตของผีเสื้อในธรรมชาติอย่างใกล้ ชิด เช่น การกินน้ำหวาน การวางไข่ หรือ แม้กระทั่งการออกจากดักแด้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-18.30 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3221 2042
การเดินทาง
รถยนต์     ใช้เส้นทางสายปิ่นเกล้า-นครชัยศรี หรือ ถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดนครปฐม ไปตามทางหลวงหมายเลข 4  จากนั้นแยกไปทางอำเภอบ้านโป่ง ก่อนถึงอำเภอบ้านโป่ง ประมาณกิโลเมตรที่ 74–75 จะเห็นแยกเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 1 กิโลเมตร เข้าอุทยานบ้านปลามณชิดา ( อยู่ติดกับตลาดสหกรณ์ปลาสวยงามบ้านโป่ง )
รถโดยสารประจำทาง  จากกรุงเทพฯ นั่งรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งสายใต้ สายกรุงเทพฯ-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี มาลงที่อำเภอบ้านโป่ง แล้วต่อรถโดยสารมาที่อุทยานบ้านปลา


จิตรกรรมฝาผนัง วัดคงคาราม
ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองตาคต อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางเหนือ ตามทางหลวงหมายเลข 4 ประมาณ 22 กิโลเมตร และแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3080 อีก 1 กิโลเมตร เป็นวัดมอญ สร้างขึ้นโดยพระยามอญ มีอายุกว่า 200 ปี  แต่เดิมเรียกว่า “วัดกลาง” หรือ “เภี้ยโต้” รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดคงคาราม”  ประกอบด้วยพระอุโบสถ มีเจดีย์ทรงรามัญ 7 องค์รายรอบ  ภายในอุโบสถมีพระประธาน แกนในทำด้วยศิลาแลงและปิดทองฐานชุกชีทำเป็นบัวคว่ำบัวหงาย และภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือละเอียดอ่อน ภาพแต่ละภาพเหมือนถ่ายทอดจากต้นแบบที่มีชีวิตจริง เขียนขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นภาพพุทธประวัติตอนต่าง ๆ ที่หาชมยาก นอกจากนี้ยังมีกุฏิเรือนไทย 9 ห้องสร้างในสมัยธนบุรี  ปัจจุบันจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน รวบรวมวัตถุเก่าแก่ซึ่งเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ราคา 10 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3223 1770, 0 3223 1933, 0 1527 5308

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี

ตั้งอยู่ริมถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง ใกล้กับหอนาฬิการิมแม่น้ำแม่กลอง อาคารพิพิธภัณฑ์เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดมาก่อน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2465 และได้รับการบูรณะเพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในปี พ.ศ.2431 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับราชบุรีในทุกด้าน อาทิ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ธรณีวิทยา ศิลปะพื้นบ้าน วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของกลุ่มชนต่างๆ ในจังหวัดราชบุรี เช่น ลาวโซ่ง กะเหรี่ยง และไทยยวน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ โบราณวัตถุที่โดดเด่นนอกจากพระแสดงดาบราชศัตราประจำมณฑลราชบุรีแล้ว ยังมี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี ศิลปะขอมแบบบายน เป็น 1 ใน 5 องค์ที่ขุดพบในประเทศไทยที่มีสภาพสมบูรณ์งดงามที่สุด 

เวลาเปิด-ปิด : พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–16.00 น. ยกเว้นวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 
อัตราค่าเข้าชม :  ชาวไทย 20 บาท  ชาวต่างชาติ 200 บาท 
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3232 1513


พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน
ตั้งอยู่ที่วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า ริมแม่น้ำแม่กลอง อยู่ห่างจากตัวอำเภอโพธารามประมาณ 10 กิโลเมตร ลักษณะเป็นเรือนไทย จัดแสดงนิทรรศการหนังใหญ่ ประวัติความเป็นมาของหนังใหญ่และกรรมวิธีการแกะสลักตัวหนังใหญ่ มีตัวหนังจำนวน 313 ตัวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์  ส่วนใหญ่เป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ แบ่งเป็นชุดหนุมานถวายแหวน ชุดสหัสสกุมาร และเผากรุงลงกา ชุดศึกอินทรชิตครั้งที่ 1 เป็นโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเห็นคุณค่าในการแสดงและศิลปะหนังใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการละ เล่นชั้นสูง ตัวหนังมีการแกะสลักลวดลาย ใช้วงมโหรีปี่พาทย์เป็นเครื่องดนตรีประกอบ พร้อมกับลีลาของคนเชิดประกอบบทพาทย์และบทร้อง  ทรงมีพระราชดำริให้ทางวัดช่วยกันอนุรักษ์ตัวหนังใหญ่ ซึ่งท่านพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น ผู้สร้างขื้น ด้วยท่านเป็นผู้มีความรู้ทางด้านช่างและประกอบกับในขณะนั้นมีตัวหนังอยู่ บ้างที่วัด ท่านจึงมีความคิดที่จะสร้างตัวหนังใหญ่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมจึงได้ชักชวน ครูอั๋งผู้เคยเป็นโขนคณะเจ้าเมืองราชบุรี  ช่างจาดและช่างจ๊ะชาวราชบุรี และช่างพ่วงชาวบ้านโป่งมาช่วยกันสร้างตัวหนัง ชุดแรกคือ ชุดหนุมานถวายแหวน ต่อมาได้สร้างเพิ่มอีกรวมเก้าชุด นับเป็นสมบัติของวัดที่ได้ร่วมรักษาสืบทอดกันมา  ทางวัดจึงได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น  นับเป็นวัดเดียวที่มีมหรสพของวัด ตัวหนังและคณะหนังใหญ่ที่สมบูรณ์อยู่ในความอุปถัมภ์ของวัดและยังคงมีการ จัดการแสดงหนังใหญ่สืบทอดต่อมาจนถึงทุกวันนี้ พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ทางวัดได้จัดแสดงเชิดหนังใหญ่ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-11.00 น. เพียงรอบเดียว โดยนักเรียนจากโรงเรียนวัดขนอน (สำหรับวันธรรมดาโปรดติดต่อล่วงหน้า โดยจะมีค่าใช้จ่ายรอบละ 2,000 บาท)
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เจ้าอาวาสวัดขนอน โทร. 0 3223 3386, 0 1753 1230 โทรสาร 0 3235 4979

อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม

อุทยานหุ่นขี้ผิ้งสยาม หรือ Siam Cultural Park ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม  ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี อยู่ห่างจากสี่แยกบางแพ  ไปตามถนนบางแพ-ดำเนินสะดวก เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ประมาณ 600 เมตร อุทยานอยู่ด้านขวามือ หรือสามารถนั่งรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวก ป.2 มาลงที่แยกวัดตรงข้ามวัดหลวง  อุทยานฯ มีเนื้อที่ประมาณ 45 ไร่ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2540 เป้าหมายเพื่อเป็นสถานที่พักใจแก่คนทั่วไปในสังคมที่แข่งขันเร่งรัดใน ปัจจุบัน โดยนำเสนอแง่มุมด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่งดงามในสังคมพุทธของไทย

เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-สุกร์ เวลา 09.00 - 16.30 น. เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-17.00 น.  ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ คนละ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ คนละ 200 บาท เด็ก 100 บาท  สอบถามรายละเอียดติดต่อ อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม เลขที่ 41/1 หมู่ 3 ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี 70610 โทร. 0 3238 1401, 0 3238 1404 โทรสาร.0 3238 1403


สวนศิลป์ บ้านดิน

ตั้งอยู่เลขที่ 90 หมู่ 5 ตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม เป็นศิลปะสถานท่ามกลางธรรมชาติ ในเนื้อที่ 3 ไร่ ตั้งขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมสำหรับเยาวชนและหน่วยงานต่าง ๆ ที่สนใจอบรมฝึกศิลปะการแสดงเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาการศึกษาและองค์กร โดยมีสิ่งสำคัญคือ บ้านดิน ซึ่งสร้างด้วยดินผสมแกลบตลอดทั้งหลัง และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครโทรทัศน์เรื่อง "ตม"  เมื่อปี 2546 สำหรับหลักสูตรที่เปิดสอนมีทั้ง ศิลปะการแสดง นาฎศิลป์ไทย ดนตรีไทย นาฎศิลป์ร่วมสมัยและนาฎศิลป์ตะวันตก สอบถามรายละเอียดที่ภัทราวดีเธียเตอร์ โทร. 0 2412 7287-8 หรือที่บ้านดิน โทร. 0 3239 7668


น้ำตกห้วยสวนพลู
 ตั้งอยู่ในเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีหมู่ 4 ตำบลบ้านบึง เป็นน้ำตกที่มีสภาพธรรมชาติแวดล้อมของป่าที่สมบูรณ์และหลากหลายทางชีวภาพมาก แห่งหนึ่ง มีการพบนกเงือกถึง 5 ชนิด และนกป่าหายาก เช่น นกแซวสวรรค์สีขาวหางยาว รวมทั้งกล้วยไม้ป่ามากมาย ในช่วงฤดูร้อนเป็นแหล่งรวมของบรรดาผึ้งนับหมื่นตัว ควรพักแรมอย่างน้อย 1 คืน เพื่อเที่ยวชมธรรมชาติได้ทั่วถึง

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์  ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนและสระน้ำสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิดเวลา 08.00–18.00 น.  ค่าผ่านประตู 5 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3271 1086


อุทยานธรรมชาติวิทยา ตามพระราชดำริ

ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี มีพื้นที่ 132,905 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตตำบลสวนผึ้งและตำบลตะนาวศรี สร้างขึ้นตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่า และเป็นแหล่งความรู้สำหรับเยาวชน และประชาชนทั่วไป  ภายในอุทยานฯ  มีสิ่งที่น่าสนใจ

อุทยานฯมีบ้านพัก 2 หลังและเต็นท์สำหรับอำนวยความสะดวกแก่นักวิชาการและเยาชนที่เข้าค่ายสิ่งแวด ล้อมศึกษา รายละเอียดโทร. 0 3232 9016 ,  0 6172 4232

สำนักงานที่กรุงเทพฯ  ติดต่อได้ที่ สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สวนจิตรลดา โทร. 0 2281 3921, 0 2282 6511

สถานที่พัก อุทยานฯ มีบ้านพักไว้ให้สำหรับนักวิชาการและเยาวชนที่เข้าค่ายสิ่งแวดล้อมศึกษา จำนวน 3 หลัง พักได้ 2-30 คน ราคา 50 บาท/คน/คืน หรือ 1 หลัง ราคาคืนละ 600 บาท มีเต็นท์ให้เช่า พักได้ 2 คน จำนวน 20 หลัง  ราคา 50 บาท/คน/คืน

สวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ เป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้นานาชนิดอันมีค่าทางเศษฐกิจและเป็นแหล่งศึกษาทาง ธรรมชาติที่ดีเยี่ยม ทั้งยังมีลำน้ำภาชีไหลผ่านกระทบแก่งหินขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในนาม "แก่งส้มแมว"

ถ้ำจอมพล
ตั้งอยู่ที่ตำบล จอมบึง อยู่ห่างจากถ้ำเขาบินไป 11 กิโลเมตร ในบริเวณสวนรุกขชาติ ทางเข้าถ้ำจอมบึงอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก เดิมมีชื่อว่า “ถ้ำมุจลินทร์” เมื่อปี พ.ศ.2483 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรม ราชินีนาถได้เสด็จประพาสถ้ำนี้ทรงพอพระทัยความงามของหินงอกหินย้อยโดยเฉพาะ หินย้อยผาวิจิตร ที่เหมือนริ้วไหมอินทรธนูบนบ่าของจอมพล จึงทรงพระราชทานนามถ้ำใหม่ว่า “ถ้ำจอมพล” นอกจากหินงอกหินย้อยที่สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีงานฉลองเป็นประจำทุกปีในหน้าแล้ง ถ้ำเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท

ถ้ำเขาบิน

ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกอง ในเทือกเขาบิน มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความลึกจากปากถ้ำถึงบริเวณลึกสุดประมาณ 300 เมตร แบ่งออกเป็นคูหาตามลักษณะหินงอกหินย้อยวิจิตรตระการตา ภายในถ้ำแบ่งออกเป็น 8 คูหา คือ ศิวสถาน โถงอาคันตุกะ ธารอโนดาต สกุณชาติคูหา เทวสภาสโมสร กินนรทัศนา พฤกษาหิมพานต์ และอุทยานทวยเทพ ภายในถ้ำมีการจัดระเบียบทางเดินอย่างดีและจัดแสงไฟตามกลุ่มหินย้อยต่าง ๆ เพื่อเสริมจินตนาการให้แก่ผู้มาเที่ยวชม  จัดเป็นถ้ำแรกที่มีการจัดแสงสีภายในถ้ำเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ชื่อ ถ้ำเขาบิน เชื่อว่ามาจากหินงอกหินย้อยรูปพญาอินทรีย์กางปีกดูสง่างาม  และภายในถ้ำยังมีบ่อน้ำแร่เล็ก ๆ ที่ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น., เสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3232 9226


ค้างคาววัดเขาช่องพราน

อยู่ที่ตำบลเตาปูน ห่างจากตัวอำเภอโพธารามไปทางทิศตะวันตกประมาณ 9 กิโลเมตร ถ้ามาจากตัวเมืองราชบุรี ใช้เส้นทางเขางู-เบิกไพร ไปประมาณ 17 กิโลเมตร บริเวณเขาช่องพรานมีถ้ำที่สวยงาม คือ “ถ้ำพระนอน” มีพระพุทธรูปภายในถ้ำมากกว่าร้อยองค์และมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ความ ยาว 9 เมตร แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้เขาช่องพราน คือ ฝูงค้างคาวนับล้านตัว ที่กรูกันบินออกจากถ้ำพวยพุ่งเป็นสายสีดำ นานนับชั่วโมงทุกเย็นในช่วงใกล้พลบค่ำ เวลาประมาณ 17.30 น. ในช่วงฤดูร้อนฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันออก ในช่วงฤดูหนาวฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันตก


วัดเพลง
 อยู่ในอำเภอวัดเพลง เป็นอำเภอเล็กๆ อยู่ติดกับอำเภอเมือง เดิมมีชื่อว่า “บ้านเพลง” ในสมัยก่อนอยู่ห่างไกลเส้นทางคมนาคม มีบ้านเรือนอยู่เป็นหย่อมๆ แต่มีนักร้องร้องเพลงพวงมาลัยกันเสมอ มีพ่อเพลงแม่เพลง ร้องเพลงแก้กัน ร้องสู้กันได้สามวันสามคืน หรือ เจ็ดวันเจ็ดคืน โดยไม่แพ้ชนะกัน จึงได้ชื่อว่าบ้านเพลง  ปัจจุบันยังคงบรรยากาศสงบ ร่มเย็น ตามวิถีชนบทบ้านสวนริมคลองเอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจ บางครั้งหากมีโอกาสดีๆอาจพบเห็นชาวสวนเก็บมะพร้าวร้อยพวงยาวลากตามร่องสวน กรรมวิธีขนส่งพืชผลแบบพื้นบ้านที่หาชมได้ยาก แวะไปชมโบสถ์คริสต์วัดพระหฤทัยอายุ 100 ปี  เด่นสง่างดงามตามสไตล์ตะวันตก  ก่อนเข้าชมวัดพระหฤทัย ควรติดต่อล่วงหน้าที่ วัดพระหฤทัย โทร. 0 9913 9383, 0 3239 9277  
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อชมรมดอกประยงค์สานฝัน โทร. 0 3231 9657  หรือ ที่ว่าการอำเภอวัดเพลง โทร. 0 3239 9471             
การเดินทาง จากถนนมนตรีสุริยวงศ์ เลียบแม่น้ำแม่กลองไปจนสุดถนนสาย 3088 เลียบแม่น้ำอ้อมผ่านสวนมะพร้าวที่ร่มครึ้ม

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

อยู่ในบริเวณบ้านพักทหารช่างราชบุรี ค่ายภาณุรังษี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 600 เมตร เป็นหลักเมืองเก่าที่สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งกรุง รัตนโกสินทร์


วัดพระศรีอารย์

วัดศรีอารย์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนตลอดมา และได้สร้าง อุโบสถหลังใหม่ขึ้น เป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า มีความวิจิตรตระการตา ประดับด้วยลายปูน ปั้นในรูปลักษณ์ต่างๆ อย่างงดงาม มั่นคง อย่างลงตัวทั้งหลัง อุโบสถทองคำร้อยล้านก่อสร้างเมื่อปี ๒๕๑๐ โดย พระครูสิริพัฒนกิจ (หลวงพ่อขันธ์ กนฺตธโร) อดีตเจ้าวัดพระศรีอารย ์ เป็นผู้ริเริ่ม และได้รับ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๐ การก่อสร้าง อุโบสถครั้งนี้ เพื่อใช้เป็น สถานที่ประกอบพิธีกรรมของภิกษุสงฆ์ อีกทั้ง ยังเป็น กาาแสดงถึงมรดกของไทย ด้านศิลปกรรม และจิตรกรรม มีอายุประมาณ ๒๖๐ ปี เป็นวัดเก่าแก่สร้าง มาแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เดิมวัดพระศรีอารย์ ชื่อ วัดสระอาน สันนิษฐานว่า วัดพระศรีอารย์ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อ ประมาณปี ๒๒๗๕ ซึ่งแต่ก่อนเป็นวัดสร้างยังไม่มี พระภิกษุ มาอยู่จำพรรษา เป็นวัดเก่าที่มีมาช้านาน มีผู้พบอุโบสถก่ออิฐ ถือปูน ขนาดกว้าง ๔ เมตร ยาว ๙ เมตร เป็น อุโบสถมหาอุด มีทางเข้าด้านหน้าเพียงด้านเดียว มีสระน้ำโบราณอยู่คู่กับ อุโบสถด้านทิศเหนือ ขณะที่ค้นพบมีสภาพเก่าและชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ภายในอุโบสถมีพระประธานที่เก่าแก่ เป็นอิฐเผาถือปูน บริเวณรอบๆ อุโบสถเป็นป่ามีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่ จนถึงประมาณปี ๒๔๗๕ เริ่มมีพระภิกษุเข้ามาพักจำพรรษา เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ในปี ๒๕๐๐ ได้เปลี่ยนชื่อจาก วัดสระอาน มาเป็น วัดพระศรีอารย์

สอบถามเส้นทางไปวัดพระศรีอารย์ หมู่ ๙ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โทร.๐-๓๒๒๓-๒๕๙๕, ๐-๓๒๒๓-๑๓๕๑, ๐-๑๗๖๓-๗๖๘๘


วัดมหาธาตุวรวิหาร
เป็นวัดเก่าแก่  ตั้งอยู่ถนนเขางู ตำบลหน้าเมือง ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี วัดนี้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 15-16  ไล่เลี่ยกับการสร้างเมืองราชบุรีเก่า ต่อมาได้มีการสร้างปราสาทศิลปะเขมรหรือลพบุรีซ้อนทับ ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 18 เพื่อเป็นศูนย์กลางของเมือง   ตามความเชื่อเรื่องคติจักรวาลของเขมร ต่อมาปราสาทที่สร้างขึ้นอาจจะหักพังลง จึงมีการสร้างปรางค์ใหม่ต้นสมัยอยุธยา ราวพุทธศตวรรษที่ 20–21 ดังปรากฎรูปแบบสถาปัตยกรรมปัจจุบันซ้อนทับ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ วิหารหลวง ประดิษฐานพระมงคลบุรี พระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 8 ศอก 1 คืบ  ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น พระพักตร์สุโขทัย พระองค์ยาว พระชาณุสั้น (ตัวยาวเข่าสั้น) หันหน้าสู่ทิศตะวันออก  ด้านหลังสร้างพระหันหลังให้กันอีกองค์หนึ่ง  หันหน้าสู่ทิศตะวันตก  หมายความถึง อาราธนาให้ช่วยระวังภัยพิบัติหน้าหลัง เรียกพระรักษาเมือง  ตามความเชื่อของคนสมัยอยุธยา  ด้านหน้าวิหารมีกำแพงแก้วก่อด้วยศิลาแลง 
ปรางค์ องค์พระปรางค์มีความสูง 24 เมตร ปรางค์ประธานและปรางค์บริวารทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ส่วนทางทิศตะวันออกมีมุขยื่นออกมา มีบันไดขึ้น ฐาน เรือนธาตุและส่วนยอดประดับด้วยลายปูนปั้น ภายในองค์ปรางค์ประธานมีคูหาเชื่อมถึงกัน ผนังส่วนบนเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้าในซุ้มเรือนแก้วเป็นแถวเรียงต่อกัน ตอนล่างเป็นพุทธประวัติ สันนิษฐานว่าเขียนพร้อมกับการสร้างองค์ปรางค์และซ่อมแซมพร้อมกับองค์ปรางค์ ในเวลาต่อมาราวพุทธศตวรรษที่ 22  บริเวณฐานระเบียงมีทางเดินได้รอบ วิหารคตรอบลานพระปรางค์ มีพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี สมัยลพบุรีและสมัยอยุธยาประดิษฐานอยู่โดยรอบ  ด้านหน้าพระปรางค์มีอาคารประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น สร้างในสมัยอยุธยา มีความยาว 127 คืบ 9 นิ้ว และที่วัดนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโอ่ง ไห แบบต่างๆ

วัดหนองหอย
ตั้ง อยู่หมู่ที่ 2 ตำบลเขาแร้ง บนยอดเขาแร้ง เป็นที่ตั้งของพระวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม มีความสูง 16 เมตร หน้าตักกว้าง 9 เมตร และอีกด้านหนึ่งของยอดเขาประดิษฐานพระพุทธรัตนโกสินทร์มหามุณี (หลวงพ่อใหญ่) เป็นวัดที่มีผู้ศรัทธานิยมมาไหว้พระกันมาก เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. มีงานประจำปีในช่วงเทศกาลตรุษจีน 

 
ถ้ำสาริกา
อยู่ในเขตตำบลธรรมเสน จากเขาช่องพรานจะมีทางแยกซ้ายมือไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นภูเขาลูกเล็กๆ อันเป็นที่ตั้งของถ้ำสาริกาซึ่งมีความสวยงาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อเมื่อคราวเสด็จ ประพาส และทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้บริเวณปากถ้ำ

เมืองโบราณบ้านคูบัว
ตั้งอยู่ที่ตำบลคูบัว เป็นโบราณสถานหมายเลข 18 ที่ขุดค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีหลายอย่างซึ่งชี้ให้เห็นว่า ดินแดนราชบุรีแห่งนี้ เคยเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในยุคทวารวดี สถาปัตยกรรมในเมืองโบราณคูบัวได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะจากช่างสมัยราชวงศ์ คุปตะ ประเทศอินเดีย  และมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า พุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองในประเทศไทยมามากกว่า 1,000 ปี  ส่วนโบราณวัตถุสำคัญต่าง ๆ ที่ค้นพบโดยเฉพาะเศียรพระพุทธรูปสมัยโบราณ เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี และบางส่วนเก็บรักษาไว้ที่วัดโขลงสุวรรณคีรี เมืองโบราณบ้านคูบัวพบหลักฐานกระจัดกระจายทั่วบริเวณหลายแหล่ง อาทิ โบราณสถานวัดโขลง  ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าวัดโขลงสุวรรณคีรี ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางทิศใต้ตามถนนท้าวอู่ทองประมาณ 5  กิโลเมตร  เป็นโบราณสถานที่มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  มีมุขยื่นออกมาทางด้านทิศเหนือและด้านใต้ด้านละ 3 มุข  ทางด้านตะวันออกมีมุขยื่นออกมาเป็นบันไดทางขึ้น  ฐานชั้นล่างสุดเป็นฐานสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน มีมุขยื่นออกมาจากฐานด้านข้างด้านละ 3 มุม  ฐานชั้นที่สองเป็นฐานบัวโค้ง ถัดขึ้นไปเป็นอิฐก่อเป็นช่องซุ้มรูปสี่เหลี่ยมประดับปูนปั้นรูปบัวฟันยักษ์  ชั้นถัดไปเป็นฐานหน้ากระดานรองรับซุ้มสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหนือขึ้นไปเป็นเสาอิงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่   ระหว่างเสาเจาะเป็นซุ้มจระนำยอดแหลมสลับกับเสาอิงไปตลอดผนัง  ส่วนบนของฐานโบราณสถานเป็นลานประทักษิณ  ในการขุดแต่งได้พบปูนปั้นรูปเศียรเทวดา คนแคระ เชิงเทียนสำริดและลวดลายปูนปั้นอื่นๆ 

พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะจักรีอนุสรณ์สถานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เชิงเขาแก่นจันทน์ ริมถนนเพชรเกษม นอกจากจะเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อสักการะและรำลึกถึงพระองค์ท่านแล้ว บริเวณโดยรอบยังได้รับการปรับปรุงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย


น้ำตกเก้าชั้น หรือ เก้าโจน (เก้ากระโจน)

ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร  เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปี ปริมาณน้ำจะมากในชั้นบนๆ  หินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิต แต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง  ต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทานเหมืองแร่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484  ต่อมาเมื่อหมดสัมปทาน ทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่  การเดินไปชมน้ำตก  จากลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่าง ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ค่าเข้าชม รถยนต์ รถตู้ รถปิกอั๊พ คันละ 30 บาท รถบัส 100 บาท


ถ้ำฤาษีเขางู

ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา  ในบริเวณสวนสาธารณะเขางู ตำบลเกาะพลับพลา   ลักษณะเป็นถ้ำหรือศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนา ภายในถ้ำพบพระพุทธรูปจำหลักติดผนังถ้ำ เป็นพระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาท ปางแสดงธรรมเทศนา ตามแบบพุทธศิลป์สมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11–13) รู้จักกันทั่วไปว่า พระพุทธฉายถ้ำฤาษีเขางู ลักษณะพระพักตร์แบน พระขนงเป็นเส้นนูนโค้งต่อกันเป็นรูปปีกกา พระเนตรโปน พระนาสิกแบน พระโอษฐ์หนา ขมวดพระเกศาใหญ่ มีรัศมีเป็นรูปดอกบัวตูม ระหว่างข้อพระบาทมีจารึกอักษรปัลลวะภาษาสันสกฤต อ่านว่า ปุญกรรมชระศรีสมาธิคุปตะ แปลว่า พระศรีสมาธิคุปตะเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยการทำบุญ  นับเป็นร่องรอยศิลปะสมัยทวารวดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง  ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปหินทรายศิลปะสมัยอยุธยาอีกหลายองค์  บริเวณถ้ำฤาษีเขางู มีสถานที่หลายแห่งที่น่าสนใจแวะเข้าไปชม อาทิ
รอยพระพุทธบาท  ทำด้วยศิลาแลงประดิษฐานอยู่ในวิหาร  ตั้งอยู่บนยอดเขางูสูงประมาณ  128  เมตร ลักษณะเป็นซากอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐถือปูนู

การเดินทาง  ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 (สายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง) ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกเข้าไปยังถ้ำ


พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง

ตั้งอยู่ภายในวัดม่วง ตำบลบ้านม่วง ริมแม่น้ำแม่กลอง วัดม่วงเป็นวัดเก่าแก่ ตามประวัติบอกไว้ในคัมภีร์ใบลานเขียนด้วยอักษรมอญว่า มีอายุอยู่ในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ในช่วงเวลานั้น ชุมชนบ้านม่วงและบริเวณสองฝั่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง มีกลุ่มชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายมอญ อยู่ร่วมกันกับกลุ่มชนอื่น เช่น ไทย จีน ลาว ญวน เขมรและกะเหรี่ยง มีการผสมผสานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน เกิดเป็นเอกลักษณ์ของคนในท้องถิ่นและความที่ชุมชนบ้านม่วงมีวิถีชีวิตผูกผัน อยู่กับประเพณีและความเชื่อดั่งเดิม ทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นขุมทรัพย์ทางความรู้ด้านมอญศึกษาแก่ผู้สนใจมากมาย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งค้นคว้ารวบรวมประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นชาวมอญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แบ่งการจัดแสดงออกเป็นห้องต่างๆ สามารถเข้าใจเรื่องราวได้ง่ายโดยเริ่มจาก ห้องโถง มอญในตำนาน มอญในทางประวัติศาสตร์ ภาษามอญและจารึกภาษามอญ ประเพณีวัฒนธรรมมอญ มอญอพยพ มอญในไทยและผู้นำทางวัฒนธรรม  มีการจัดแสดงโบราณวัตถุ คัมภีร์ใบลานที่เขียนด้วยอักษรมอญมีอายุกว่า 300 ปี  เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่บ่งบอกถึงมรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าสนใจ ให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของลุ่มน้ำแม่กลองในอดีต ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรมของชุมชนบ้านม่วงกับชุมชนในเขตอำเภอบ้านโป่งและอำเภอโพธาราม

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วงเปิดให้เข้าชมในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00–16.00 น. โดยไม่เสียเข้าชม (หากสนใจเข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ กรุณาติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชม และ เข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้าหรือทำหนังสือเรียนเจ้าอาวาสวัดม่วง) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3237 2548, 0 6004 0786, 0 9885 8817 หรือที่เว็บไซต์  www.monstudies.org  พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วงขอเชิญชวนผู้เข้าชมที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปลองลิ้มชิมรสอาหารคาวหวานพื้นบ้านแบบมอญ เช่น แกงบอน น้ำปลายำ แกงมะตาด ในราคาเป็นกันเอง ติดต่อล่วงหน้าที่คุณสอางค์ พรหมอินทร์ บริเวณวัดยังมีศูนย์ทอผ้าพื้นบ้าน จำหน่ายผ้าทอมือ ผ้าขาวม้าฝีมือชาวบ้าน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 6111 1367


ค่ายหลวงบ้านไร่
ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองตาคต เป็นค่ายเสือป่าในอดีต ห่างจากที่ว่าการอำเภอโพธารามประมาณ 7 กิโลเมตร รัชกาลที่ 6 เคยเสด็จมาฝึกอบรมเสือป่าภาคปฏิบัติ เช่น ฝึกซ้อมรบ ฝึกขุดสนามเพลาะ หัดเพลงอาวุธ ฯลฯ ณ ที่แห่งนี้ถึง 9 ครั้ง หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลและทางราชการเห็นว่าสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญจึงได้สร้างพระบรม ราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ผู้ให้กำเนิดกิจการลูกเสือไทย ณ ค่ายหลวงบ้านไร่แห่งนี้ ปัจจุบันค่ายหลวงบ้านไร่แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อน มีหอนิทรรศการถาวรของ ฯพณฯ หม่อมหลวงปิ่น  มาลากุล ณ อยุธยา นอกจากนั้นยังมีแคมป์ลูกเสือ-เนตรนารี เรือนพักไว้สำหรับรับน้อง เปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3223 2828, 0 1880 3672 ์

สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคกลาง
ตั้งอยู่เชิงเขาประทับช้าง ตรงข้ามปากทางเข้าถ้ำเขาบิน เป็นสวนป่าร่มรื่น รวบรวมพรรณไม้ในวรรณคดีหายากหลายชนิด โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน จะเป็นช่วงที่ "ดอกอรพิม" บานสะพรั่งสีขาวบริสุทธิ์ เหมาะเป็นที่พักผ่อนและศึกษาธรรมชาติพันธุ์ไม้ และนอกจากนั้นยังได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ชื่อเส้น “พฤกษานานาพรรณ” มีทั้งหมด 13 สถานี ระยะทาง 900 เมตร ใช้เวลาในการเดิน 45 นาที ตลอดเส้นทางผ่านแปลงพรรณไม้ที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทย เช่น พืชสมุนไพร พรรณไม้ประจำจังหวัด และสัตว์ป่าที่พบ เช่น เสือ กวาง เก้ง เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 3221 1025 ต่อ 807    หัวหน้างาน  โทร. 08 1918 6345, 08 9826 8806  ฝ่ายประสานงาน โทร.08 9510 7066  ประชาสัมพันธ์ โทร. 08 6163 1871 
ทุกปีประมาณเดือนมกราคมและมิถุนายน  ทางสวนพฤกศาสตร์ฯได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จัดกิจกรรมวิ่งและขี่จักรยานเสือภูเขา ชมสวนมวลไม้ สอบถามรายละเอียดโทร. 0 3226 1790 ต่อ 6009การ เดินทาง  รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ นั่งรถสายกรุงเทพฯ-จอมบึงมาลงที่หน้าถ้ำเขาบิน สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคกลาง เขาประทับช้างอยู่ฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าถ้ำเขาบิน

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน
ที่ตั้งและแผนที่
อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน
110 หมู่ 5 บ้านไทยประจัน ต.ยางหัก อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี 70140
โทรศัพท์ : 08 7165 3278
E-mail : thaiprachan_np@dnp.go.th หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายอดุลย์ ทำไธสง อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อยู่ในเขตการปกครองของตำบลยางหัก ตำบลทุ่งหลวง ตำบลอ่างหิน อำเภอปากท่อ และตำบลบ้านบึง ตำบลหนองพันจันทร์ ตำบลบ้านคา อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี โดยได้กำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เป็นพื้นที่อุทยานฯ และเป็นพื้นที่ในโครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ที่จัดตั้งขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะทรงมีพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2535 เพื่อสนองพระราชปณิธานที่จะทรงอนุรักษ์ป่าไม้ โดยให้ราษฎรช่วยกันรักษาป่าอันเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของราษฎร ซึ่งได้ทรงมีพระราชดำริไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่จะให้มีป่าไม้หลาย

 
บ่อพุน้ำร้อนโป่งกระทิง

เดินทางไปตามถนนสายโป่งกระทิง-พุน้ำร้อน ประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นป้ายเลี้ยวเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร เป็นบ่อพุน้ำร้อนขนาดเล็ก กว้างประมาณ 5 เมตร เมื่อยืนล้อมรอบบ่อและช่วยกันปรบมือหรือเคาะทำเสียงดัง น้ำในบ่อจะผุดเป็นฟองขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ใกล้กันมีบ่อน้ำเล็ก ๆ สำหรับอาบน้ำร้อนได้ 


 
พุน้ำร้อนไทยประจัน
เป็นบ่อพุน้ำร้อนที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านคา มีอุณหภูมิในบ่อ 65 องศาเซลเซียส หากผู้มาเยือนสร้างคลื่นเสียงด้วยการปรบมือ น้ำร้อนในบ่อจะมีฟองอากาศพวยพุ่งออกมา เปิดให้นักท่องเที่ยวเลือกอาบน้ำได้ระหว่างน้ำเย็นที่ไหลจากเทือกเขาตะนาว ศรีและน้ำร้อนที่ไหลจากบ่อ

 
น้ำตกซับเตย

ห่างจากกิ่งอำเภอบ้านคาประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นน้ำตก 9 ชั้น ชั้นบนสุดห่างจากชั้นล่างสุดประมาณ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางจะพบพืชสมุนไพร กล้วยไม้ป่าและเฟิร์นมากมาย


 
วัดป่าพระธาตุเขาน้อย

ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านคา ห่างจากกิ่งอำเภอบ้านคาประมาณ 500 เมตร เป็นที่ตั้งของเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี อันเป็นที่เคารพนับถือยิ่งของพุทธศาสนิกชน บนเขาเป็นจุดชมวิวที่ใกล้เทือกเขาตะนาวศรีมากที่สุด

 
สวนสัตว์เปิด สถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง
 ตั้งอยู่ที่ตำบลปากช่อง เป็นสถานีเดียวในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ที่มีการเพาะเลี้ยงและแพร่พันธุ์เสือ นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ เช่น  เลียงผา  ไก่ต๊อก กวาง ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ได้รับการบริจาคหรือถูกจับยึดมาได้ นำมาอภิบาลและขยายพันธุ์ ให้อาศัยอยู่ในบริเวณสวนสัตว์เปิดเขาประทับช้าง มีพื้นที่ราว 26 ไร่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ยินดีรับการบริจาค เพื่อใช้เป็นค่าอาหารสัตว์และค่าบำรุงสวนสัตว์

บึงกระจับ
ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลหนองกบ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดและที่บึงนี้มีการเล่นเจ็ตสกี พายเรือแคนู  มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอบ้านโป่งและอำเภอโพธารามการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ก่อนถึงอำเภอบ้านโป่งประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็นวัดบึงกระจับอยู่ทางขวามือ เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร

ล่องเรือตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง
ในอดีตเมื่อครั้งขุดคลองสายนี้เสร็จใหม่ๆ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ต้องการทราบถึง ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร จึงทรงเรือมาดกะสวยมาตามลำพัง เส้นทางที่พระองค์เสด็จประพาสนี้นับเป็นเส้นทางสายประวัติศาสตร์ที่แสดงให้ เห็นถึงความเป็นห่วงเป็นใยความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง ยากที่ผู้ใดจะลืมเลือน การเดินทางตามเส้นทางเสด็จของพระองค์นี้จึงมีเรื่องราวน่าศึกษามากมายสาย หนึ่งของราชบุรี เริ่มจากท่าน้ำคลองดำเนินสะดวก ผ่านไร่องุ่น แวะชิมน้ำมะพร้าวอ่อน ก่อนผ่านสวนเกษตรผสมผสาน ชมบ้านเรือนไทยเก่าแก่ริมน้ำ ชิมน้ำตาลมะพร้าวสดแก้กระหายแล้วอิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวเรือ เจ้าของรางวัลชนะเลิศดำเนินสะดวก ผ่านหน้าวัดโชติทายการามและบ้านเจ๊กฮวดที่ครั้งหนึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาในแบบสามัญชนและเสวยพระกระยาหารกลางวันที่นี่ ก่อนจะผ่านตลาดลัดพี สู่ใจกลางตลาดน้ำดำเนินสะดวกอีกครั้งหนึ่ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3224 1023 และ 0 3234 6161

 
วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม
ตั้งอยู่ที่ตำบลแพงพวย ถนนบางแพ-ดำเนินสะดวก  หากเดินทางมาจากบางแพ วัดอยู่ขวามือก่อนถึงแยกดำเนินสะดวก 10 กิโลเมตร พระอุโบสถสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายและเป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปหยกปางต่าง ๆ  ภายในวัดมีอุทยานการศึกษาและสวนป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯพื้นที่กว่า 200 ไร่  วัดนี้ได้รับรางวัลสวนป่าดีเด่นจากกรมป่าไม้ ประจำปี 2539 นอกจากนี้ยังเป็นสำนักเรียนภาษาบาลีประจำจังหวัด  มีนิทรรศการเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ และมีการสอนปฏิบัติธรรมวิปัสสนาสำหรับชาวไทยและชาวต่างประเทศทุกวันอาทิตย์  เวลา 09.30-12.30 น. และมีการอบรมธรรมปฏิบัติทุกปีๆ ละ 2 รุ่น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3224 6090-6 ต่อ 190,220

 
วัดเขาวัง
ตั้งอยู่บนเขาสัตตนาถ ซึ่งเป็นภูเขาลูกย่อมๆ สูงประมาณ 44 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร มีทางรถยนต์ขึ้นถึงยอดเขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังบนเขานี้เมื่อ พ.ศ. 2416 เช่นเดียวกับที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้สร้างนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เมืองลพบุรี แต่พระองค์ได้เคยเสด็จไปประทับเพียงครั้งเดียวเมื่อ พ.ศ. 2420 เพื่อออกรับราชทูตโปรตุเกส หลังจากนั้นไม่ได้เสด็จไปประทับอีกเลยจนตลอดรัชกาล ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ อุทิศให้เป็นธรณีสงฆ์ ซึ่งมีผู้มีศรัทธาได้ซ่อมแซมบางส่วนดัดแปลงตำหนักต่าง ๆ เป็นโบสถ์ กุฎิสงฆ์ และต่อมาได้ยกขึ้นเป็นวัด ด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองราชบุรีโดยรอบ

เขาแก่นจันทน์
เดิมชื่อ เขาจันทน์แดง มีความสูงประมาณ 141 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด มีถนนตัดขึ้นไปถึงยอดเขา บนยอดมีวิหารประดิษฐานพระพุทธนิโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “พระสี่มุมเมือง” เป็นพระ 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองต่าง ๆ สี่เมืองได้แก่ ราชบุรี ลำปาง สระบุรี และพัทลุง เปิดตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองราชบุรีได้ 

 
 
 
   
กรุงเทพ ป่าหวาย สวนผึ้ง
ตลาดน้ำ Veneto
 
ซีนเนอรี่ ฟาร์มแกะ สวนผึ้ง (The Scenery farm)
 
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
   
อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม
 
ถ้ำจอมพล
 
ถ้ำเขาบิน
   
ถ้ำค้างคาว
   
วัดเพลง