แก่งหินเพลิง | ||
ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ใสใหญ่) หรือ ขญ. 9 อำเภอนาดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทาย และสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลาก ล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งหินเพิง หากพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้วแก่งหินเพิงนี้จะกลายเป็นลานโขดหินกว้างใหญ่ การล่องแก่งหินเพิงจะผ่านแก่งต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร แก่งงูเห่า การล่องใช้แพยางนั่งประมาณ 8-10 คน ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ. 9 ระยะเวลาในการล่องแก่งประมาณ 20 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมล่องแก่งหินเพิง และสามารถพักค้างแรมแบบแค้มปิ้ง หรือพักรีสอร์ทในเขตอำเภอนาดีก็ได้ การเดินทาง ใช้เส้นทางสายกบินทร์บุรี - นครราชสีมา หลวงหมายเลข 304 จากปากทาง กม.ที่ 11 เข้าไปประมาณ 25 กิโลเมตร แล้วจอดรถไว้ที่ ขญ.9 และเดินเท้าอีก 45 นาทีก็ถึงแก่งหินเพิง |
||
น้ำตกธารทิพย์ | ||
ตั้งอยู่ที่บ้านเนินหินตั้ง ตำบลหนองแก้ว เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินต่างระดับ บางช่วงไหลผ่านลานหินบริเวณกว้าง บางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก สามารถลงเล่นน้ำได้ มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายของลำธารลักษณะค่อนข้างสูงชัน สภาพโดยทั่วไปยังเป็นป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างดี การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสายปราจีนบุรี - ประจันตคาม เส้นทางหลวงหมายเลข 3452 ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข |
||
อุทยานแห่งชาติทับลาน |
||
ครอบคลุมพื้นที่ของตำบลบุพราหมณ์ ในเขตอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี, อำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,240 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,400,000 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2524 |
||
น้ำตกตะคร้อ และน้ำตกสลัดได | ||
ตั้งอยู่ที่บ้านตะคร้อ ตำบลบุฝ้าย น้ำตกตะคร้อ อยู่ห่างจากด่านตะคร้อ ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นแก่งน้ำกว้าง มีสะพานแขวนทอดข้ามน้ำตกตะคร้อ ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นเนินเขา ส่วนทางด้านฝั่งขวาเป็นป่าโปร่ง เหมาะแก่การพักผ่อน จากน้ำตกตะคร้อมีทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึง น้ำตกสลัดได เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม หากจะเดินทางเข้าไปชมน้ำตกสลัดไดควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 ที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อ โทร. 0 1755 4852, 0 9913 5058 เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. |
||
น้ำตกส้มป่อย | ||
ตั้งอยู่ที่บ้านเขาน้อย ตำบลบุฝ้าย เป็นน้ำตกที่ไม่สูงมากนัก ไหลลดหลั่นผ่านแก่งหิน เป็นระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร มีแอ่งน้ำที่ลงเล่นน้ำได้ตลอดลำธาร การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกันกับน้ำตกธารทิพย์ ก่อนถึงน้ำตกตะคร้อจะมีแยกซ้ายมือบริเวณกิโลเมตรที่ 14 เข้าไปจนถึงตัวน้ำตกอีกประมาณ 2 กิโลเมตร |
||
น้ำตกห้วยเกษียร | ||
บริเวณตัวน้ำตกเป็นป่าเขา ปากทางแยกเข้าน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่หมู่บ้านขอนขวาง ตำบลดงขี้เหล็ก ซึ่งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 166 หรือห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 15 กิโลเมตร แยกซ้ายมือเข้าสู่ตัวน้ำตกอีกประมาณ 4 กิโลเมตร
|
||
น้ำตกธารรัตนา | ||
ตั้งอยู่ที่ตำบลเนินหอม ระยะทางประมาณ 100 เมตร จากถนนสายเนินหอม-เขาใหญ่ กม.ที่ 16 ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองปราจีนบุรีประมาณ 25 กิโลเมตร มีสภาพเป็นแก่งน้ำไหลตามหุบเขาในเทือกเขาใหญ่มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน มีกิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาของน้ำตก
|
||
น้ำตกเขาอีโต้ | ||
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านพระ น้ำตกเขาอีโต้เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ความสูงไม่มากนัก สภาพบริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่ง มีน้ำมากเฉพาะในช่วงฤดูฝน และก่อนถึงน้ำตกประมาณ 400 เมตร มีอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์หรืออ่างเขาอีโต้ จากอ่างเก็บน้ำจะมีถนนขึ้นไปถึงยอดเขา เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร และช่วงกิโลเมตรที่ 6 จะมีเนินพิศวง คือถ้าจอดดรถแล้วเข้าเกียร์ว่างไว้รถจะไหลขึ้นเนินได้ ซึ่งเกิดจากภาพลวงตาจากภูมิประเทศโดยรอบ การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 33 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 160-161 ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร |
||
อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ | ||
ก่อสร้างเป็นเขื่อนดิน สูงประมาณ 16.50 เมตร ยาว 740 เมตร จากปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำให้เลี้ยวซ้ายจะมีถนนขึ้นไปจนถึงยอดเขาเพื่อชม ทัศนียภาพโดยรอบ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร และช่วงกิโลเมตรที่ 6 จะเป็น เนินพิศวง หรือ เนินมหัศจรรย์ ยาวประมาณ 150 เมตร ถ้าจอดรถแล้วปล่อยเกียร์ว่างไว้รถจะไหลขึ้นเนินได้ซึ่งเกิดจากภาพลวงตาจาก ภูมิประเทศโดยรอบ การเดินทาง จากสี่แยกเนินหอม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 33 ไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกให้แยกซ้ายมือ ระหว่างกิโลเมตรที่ 160-161 เลยไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ |
||
ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ | ||
อยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ตำบลโคกปีบ ภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราว ตรัสรู้ จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ในวันวิสาขบูชาจะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสุวินทวงศ์ ใช้เส้นทางสายปราจีนบุรี-อำเภอพนมสารคาม ทางหลวงหมายเลข 319 ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงวัดแห่งนี้ |
||
หลวงพ่อทวารวดี | ||
ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วิหารหน้าที่ว่าการอำเภอ ศรีมโหสถ เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางประทานธรรมสร้างจากหินทรายสีเขียวขนาดสูง 1.63 เมตร อายุประมาณพุทธศตวรรที่ 12 - 14 ขุดพบในนิคมโรคเรื้อน โรงพยาบาลคามิโลทางทิศใต้นอกเมืองศรีมโหสถ |
||
กลุ่มโบราณสถานสระมรกต | ||
ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดแต่งได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลักอยู่บนศิลาแลง ที่ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท โดยที่ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตรหรือร่ม รอยพระพุทธบาทคู่นี้คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยทวารวดีถึงสมัยลพบุรี นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ใกล้กันมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพบพระพุทธรูปและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมี สระมรกต เป็นสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดกว้างประมาณ 115 เมตร ยาว 214 เมตร ลึก 3.50 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ สันนิษฐานว่าขุดขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำ และได้นำศิลาแลงไปใช้เป็นสถาปัตยกรรม นอกจากสระมรกตแล้วยังมี สระบัวหล้า และ ศูนย์นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรีได้ใช้สถานที่แห่งนี้จัดงาน "มาฆปูรมีศรีปราจีน" เป็นประจำทุกปี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3727 6084 การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสุวินทวงศ์ ใช้เส้นทางหมายเลข 319 สายปราจีนบุรี-อำเภอพนมสารคาม ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงกลุ่มโบราณสถานแห่งนี้ |
||
วัดแก้วพิจิตร | ||
ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านขวาของแม่น้ำบางปะกง ถนนแก้วพิจิตร ตำบลหน้าเมือง ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดนิกายธรรมยุติวัดแรกของจังหวัดปราจีนบุรี สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2422 โดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรีชื่อนางประมูล โภคา (แก้ว ประสังสิต) ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมาในปีพ.ศ. 2461 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ชำรุกผุพัง จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและลวดลายประดับอาคารผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรปและเขมร |
||
พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ | ||
ตั้งอยู่เลขที่ 135 ถนนปราจีนตคาม ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร ทางไปอำเภอประจันตคาม ด้านซ้ายมือ เป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่าของเอกชน เก็บสะสมตะเกียงไว้มากที่สุดในประเทศไทย พื้นที่โดยรอบปลูกพรรณไม้สวยงามนานาชนิด อีกทั้งยังมีสัตว์ต่าง ๆ เลี้ยงไว้มากมาย เมื่อก้าวเข้าสู่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะได้พบกับตะเกียงจำนวนมหาศาล ซึ่งแขวนอยู่ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นตามที่จอดรถ ร้านค้า บนเพดาน ตามอาคารต่างๆ แม้กระทั่งห้องน้ำ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีอาคารทั้งหมด 5 อาคาร ประกอบด้วย |
||
ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร | ||
ตั้งอยู่เลขที่ 32/7 หมู่ 12 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2.5 กิโลเมตร ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นโดยทรัพย์สินส่วนตัว ในปี พ.ศ.2452 เพื่อถวายเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราว เสด็จประพาสมณฑลปราจีน มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นตึกสองชั้นแบบยุโรป สมัยเรอเนสซองส์ มีมุขด้านหน้า ตรงกลางเป็นโดม ผนังด้านนอกเป็นปูนปั้นลายพฤกษาประดับซุ้มประตูและหน้าต่าง ภายในตกแต่งแบบตะวันตก ชั้นล่าง มีการจัดแสดงเครื่องมือทางการแพทย์ในสมัยก่อน รวมทั้งสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคต่างๆ ชั้นบน มีการจัดแสดงหนังสือและตำรายาโบราณ และหินบดยาในสมัยทวารวดี โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว ภายในตึกจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร โดยจะเป็นศูนย์การรวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี อีกทั้งยังเป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และการแพทย์ของท้องถิ่น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรบำบัดยารักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ ฝังเข็ม และมีการแปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง จำหน่ายในราคาย่อมเยา โดยใช้ชื่อว่า "ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร" เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-20.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3721 1088 |
||
ตลาดบ้านโง้ง บ้านต้น | ||
ตลาดบ้านโง้ง บ้านต้น ตลาดบ้านโง้ง บ้านต้น เป็นตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์จากไม้เก่าหรือไม้ไผ่ของชุมชนชาว โพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งอยู่ริมถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) กม. 172 ตลาดแนวถนนสุวรรณศร ทั้งสองฝั่งจะถูกจับจองจากชาวบ้านที่นำสินค้าพื้นบ้านที่สรรค์สร้างจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่น บวกกับความคิดริเริ่มของชุมชนมาประดิษฐ์และผลิตสินค้าพื้นเมืองจำหน่ายให้ นักท่องเที่ยวที่ใช้ ถ.สุวรรณศร สัญจรไปมา บ้างก็ซื้อเป็นของฝาก ผู้ที่เดินทางไปมาทั้งเครื่องเรือนเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านเรือนเช่น ชุดรับแขก เตียงนอน ซุ้มเรือนไทยมุงหญ้าคา ซุ้มเรือนไม้เก่า, เครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ตะแกรง ฝาชีลวดลายต่าง ๆ, อุปกรณ์สำหรับจัดสวน เช่น รั้วไม้ กระถางปลูกกล้วยไม้ เป็นต้น จึงขอแนะนำตลาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่หรือไม้เก่า ชิ้นงานแต่ละชิ้นมีความสวยงามทนทานไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักราคาแพง หรือเลือกของใช้ต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ณ บ้านโง้ง บ้านต้น ตำบลโพธิ์งาม มาชมมนต์เสน่ห์ของพันธุ์ไผ่ พันธุ์ไม้ล้มลุกที่มองผ่านแล้วอาจจะมีค่าไม่มากนัก แต่เนื้อไม้สีทองของไผ่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นของใช้นานาชนิด ประดิษฐ์คิดสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานที่นับว่ามีเพียงชิ้นเดียวในโลกนำมาใช้ ประโยชน์ได้นานัปการ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ - สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 โทร.0 3731 2282, 0 3731 2284 องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์งาม โทร.0 3729 1274 |
||
เมืองไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ-สมุนไพรบ้านดงบัง- ถนนผลไม้บ้านหนองจวง-หนองกันเกรา | ||
เมืองไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ-สมุนไพรบ้านดงบัง - ถนนผลไม้บ้านหนองจวง-หนองกันเกรา เมืองปราจีนบุรี เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ประชาชนจึงประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นส่วน ใหญ่โดยเฉพาะทำสวนผัก – สวนผลไม้ – เพาะพันธุ์ไม้/ดอกไม้ประดับ ผลผลิตมีคุณภาพ มีความหลากหลาย ราคาย่อมเยา จังหวัดปราจีนบุรีจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และหากนำจักรยานติดรถมาด้วยสักคันปั่นจักรยานชมสวนผลไม้ ศึกษาสรรพคุณสมุนไพรไทย และสัมผัสภูมิปัญญาชาวบ้านในการเคลื่อนย้ายพรรณไม้ต้นใหญ่ยักษ์ไปปลูกประดับ สวน แวะชม แวะซื้อ แวะชิม ในแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ซ้ำแบบถึง 3 จุดด้วยกัน |
||
พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำบ้านบ่อทอง | ||
ตั้งอยู่ภายในบริเวณที่ทำการ อบต.บ่อทอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติการทำเหมือง แร่ทองคำ เป็นสถานที่รวบรวมเอกสารวัสดุโบราณ สิ่งของ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ทองคำในท้องถิ่น ระหว่างปี พ.ศ.2416-2521 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระปรีชากลการเจ้าเมืองปราจีนบุรี เป็นผู้ดำเนินการทำเหมืองด้วยวิธีการขุดบ่อ ซึ่งยังมีหลักฐานของโรงตำแร่ เตาหลอม และบ่อเหมืองทองคำปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3746 0037 การเดินทาง จากศาลพระนเรศวรมหาราช มาตามถนนสุวรรณศรประมาณ 40 กิโลเมตร จะถึง สี่แยกสามทหาร จากสี่แยกสามทหารเดินทางอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ถึงป้อมตำรวจ หนองสังข์-วังตะเคียน แล้วแยกขวาแล้วเดินทางอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงที่ทำการ อบต.บ่อทอง |
||
โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ | ||
|
||
สวนนงนุช | ||
ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งโพธิ์ เป็นรีสอร์ทที่รวบรวมความหลากหลายในเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ มีพื้นที่ติดกับเขาใหญ่ มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด และหลากหลายกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว เปิดบริการเวลา 08.00- 18.00น. |
||
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี | ||
ตั้งอยู่ทางด้านหลังของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ 200 เมตร เป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุในเขต 7 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราด และระยอง ภายในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปเคารพในศาสนาฮินดู ศิวลึงค์ ทับหลัง เครื่องใช้สำริด และ จัดแสดงศิลปะในประเทศไทยสมัยต่างๆ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ต่อเนื่องจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ รวมทั้งเครื่องถ้วยสังคโลกที่พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี นอกจากนั้นยังจัดสถานที่ส่วนหนึ่งสำหรับนิทรรศการชั่วคราวในโอกาสต่าง ๆ ด้วย |
||
นกเป็ดน้ำอุทยานกบินทร์เฉลิมราชย์ | ||
นกเป็ดน้ำอุทยานกบินทร์เฉลิมราชย์ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 33 ตำบลเมืองเก่า ระหว่างช่วงอำเภอประจันตคาม-กบินทร์บุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 206-207 ทางซ้ายมือจะมีหนองน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 900 ไร่ ในระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำจากไซบีเรียมาอาศัยเป็นจำนวนมากนับพันตัว เปิดตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น |
||
อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์ | ||
ตั้ง อยู่ที่สวนสาธารณะลายพระหัตถ์ศรีมหาโพธิ ตำบลหนองโพรง อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์นี้เป็นลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ซึ่งได้เสด็จประพาสปราจีนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2451 ทรงจารึกไว้บนแผ่น ศิลาแลง ซึ่งเป็นซากโบราณวัตถุสมัยลพบุรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 การเดินทาง อนุสาวรีย์อยู่เลยจากที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวาง ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยอยู่เยื้องทางเข้าหลุมเมือง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานศิลปากรที่ 5 โทร. 0 3721 2610 |
||
หลุมเมือง | ||
ตั้งอยู่ที่ ซอยเทศบาล 10 ต.ศรีมห่โพธิ์ (ตรงข้ามอนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์) มีลักษณะเป็นหลุมขนาดต่าง ๆ ขุดเจาะลึกลงไปในพื้นศิลาแลง ไม่ทราบว่าขุดขึ้นในสมัยใด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2451 มีพระราชสันนิษฐานว่า “เป็นหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายเครื่องประดับปรางค์ปราสาท” มีหลุมทั้งหมดประมาณ 48 หลุม แต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่ากล่าวว่าเป็นหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้าน เรียกว่า การเล่นหลุมเมือง |
||
โบราณสถานพานหิน | ||
ตั้งอยู่ที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง เป็นโบราณสถาน ที่ก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ กว้างด้านละ 15.50 เมตร สูง 3.50 เมตร มีมุขยืนออกไปทั้งสี่ด้าน สันนิษฐานว่าประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูปซึ่งแต่เดิมตะแคงอยู่ลักษณะคล้ายพาน จึงเรียกว่า “พานหิน” นอกจากนี้ยังพบศิลาแลงทรงกลม สกัดเป็นรูปฐานเชิง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จทอดพระเนตรโบราณสถานแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451 การเดินทาง เทวสถานพานหินอยู่เลยจากที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวางประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วแยกขวาไปอีกประมาณ 600 เมตร |
||
ค้างคาวแม่ไก่วัดบางกระเบา | ||
วัดบางกระเบาอยู่บนถนนสายบ้านสร้าง-บางแตน ต.บางกระเบา ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านสร้างประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดัง คือ "หลวงพ่อจาด" ภายในบริเวณวัดบางกระเบา จะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับพันตัวอาศัยอยู่ตามต้นไม้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3727 1475 |
||
วัดบางแตน | ||
วัดแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดี เด่นอีกแห่งหนึ่งของอำเภอบ้านสร้าง ภายในมีพระพุทธรูปที่ชาวบ้านนับถือชื่อว่า "หลวงพ่อคุ้ม" และยังมีสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับ ร.5 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินหัวเมืองปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่เก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ ถ้วยชาม ตะเกียงเจ้าพายุ เรือบิณฑบาตรพระราชทาน ฯลฯ และในยามเย็นสามารถชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง สัมผัสความสงบร่มเย็นของพรรณไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้ภายในบริเวณวัด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3729 5179 การเดินทาง ใช้เส้นทางสายบ้านสร้าง-บางแตน เลยวัดบางกระเบาไปประมาณ 10 กม. |
||
พิพิธภัณฑ์พระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง สุขิโต) | ||
อยู่ถัดจากศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปทางจังหวัด สระแก้ว เป็นสถานที่รวบรวมโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์และศิลปะวัตถุของประเทศ เพื่อนบ้าน รวมทั้งของที่จัดทำขึ้นใหม่เลียนแบบศิลปะโบราณ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีโบราณวัตถุประมาณ 900 ชิ้น อาทิ กำไลสำริด ภาชนะดินเผา เครื่องเคลือบ พระพุทธรูปปางต่างๆ เหรียญเงินตราของประเทศเพื่อนบ้านสมัยก่อน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. | ||
กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ | ||
ตั้งอยู่ที่ค่ายพรหทโยธี ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ในสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ สนามกอล์ฟ (9 หลุม) กิจกรรมทางทางทหารต่างๆ ชมรมขี่ม้า (เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-09.00 น.) ชมรมยิงปืน (เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 น.) ศูนย์กีฬา พิพิธภัณฑ์และอนุเสาวรีย์ทหารหาญ พุทธสถานและอุทยานธรรม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.รอ.2 โทร. 0 3721 1439 ต่อ 63315, 0 6394 1619 |
||
ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช | ||
ประดิษฐานอยู่ ณ สี่แยกเนินหอม อยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีไปทางทิศเหนือ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 320 ประมาณ 9 กิโลเมตร วงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะตั้งอยู่ทางขวามือ ศาลแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในท่าประทับยืน เหตุที่สร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ท่านในคราวกรีฑาทัพจากกรุง ศรีอยุธยา เพื่อไปปราบนักพระสัฏฐาแห่งเมืองละแวก กัมพูชา พ.ศ. 2132 ระหว่างการเดินทางทัพได้หยุดพักทัพในเขตปราจีนบุรี ประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงนิยมมาสักการะบูชาเพื่อเป็น สิริมงคล |
||
สวนพันธุ์ไผ่ | ||
ตั้งอยู่ที่ตำบลเนินหอม มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไผ่นานาชนิดปลูกไว้เพื่อการศึกษาและขยายพันธุ์ ภายในบริเวณส่วนหนึ่งเป็นที่ตั้งของทัณฑ์สถานเปิดบ้านเนินสูงซึ่งใช้เป็น สถานที่ฝึกวิชาชีพของนักโทษชั้นดี เช่น การตัดต้นไผ่ ปลูกผักสวนครัว ทำเฟอร์นิเจอร์ บริเวณริมถนนด้าานหน้าสวนมีพันธุ์ไผ่ ไผ่หวาน ไผ่ตง ไผ่สีทอง พันธุ์หน่อไม้ จำหน่าย เปิดระหว่างเวลา 08.00 - 16.00 น. โทร 0 3721 9904 โทรสาร 0 3721 2661 |
||
สวนนกวัดสันทรีย์ | ||
ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดโบสถ์ เป็นที่ชุมนุมของนกนานาชนิด เช่น นกแขวก นกกาน้ำ นกกระยาง จำนวนนับหมื่นจะมาชุมนุมกันทุกปี ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับนักดูนก |
||
วัดสง่างาม | ||
สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2514 และได้ทำการซ่อมแซมอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 เมื่อถึงเดือนกรกฎาคมและเดือนตุลาคมของทุกปี น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีจะท่วมสูงบริเวณรอบพระอุโบสถประมาณ 1 เมตร ทำให้พระภิกษุลงไปทำสังฆกรรมต่างๆ นั้นเป็นไปด้วยความลำบาก ดังนั้นทางวัดจึงได้ทำการยกฐานพระอุโบสถให้สูงขึ้นประมาณ 1.59 เมตร ในขณะที่ได้ทำการบูรณะอยู่นั้นได้มีประชาชนที่มีความศรัทธาเลื่อมใสได้มาลอด ใต้ท้องพระอุโบสถ โดยตั้งจิตอธิษฐานให้หายจากโรคภัยต่างๆ รวมทั้งโชคลาภ ซึ่งประชาชนที่สมหวังและประสบความสำเร็จได้บอกต่อๆ กันไปจนเป็นที่รู้จักของประชาชนจำนวนมาก และเป็นวัดแห่งแรกที่ได้มีการยกพระอุโบสถขึ้นของประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังคงมีประชาชนจำนวนมากทั้งในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัด ต่างๆ เดินทางมาขอพรกันเป็นจำนวนมากทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการต่างๆ จะมีประชาชนเหมารถทัวร์มาที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 3069 (ปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ์) กม.ที่ 7 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางอีก 1 กม. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่วัดสง่างาม โทร. 0 3721 4490, 0 6097 5803 |
||
วัดโบสถ์ | ||
อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองปราจีนบุรี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ภายในวัดมีพระพุทธรูป 3 องค์ ประดิษฐานเรียงรายไปตามริมแม่น้ำ คือ พระพุทธรูปปางลีลา พระนามว่า “พระสิริมงคลนิมิต” พระพุทธรูปปางประทับนั่งห้อยพระบาท พระนามว่า “พระสรรพสิทธินาวา” พระพุทธรูปปางประทับนอน พระนามว่า “พระมหาชินไสยาสน์” ภายในวัดมีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ |
||
ตลาดหนองชะอม | ||
เป็นตลาดกลางขายสินค้าพื้นเมือง ของฝากจังหวัดปราจีนบุรีและจากจังหวัดอื่น ๆ จึงเป็นจุดพักรถของนักท่องเที่ยวที่ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 33 กม.151 ที่มีจุดหมายปลายทางในสถานที่ต่าง ๆ |
||
ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและหัตถกรรม ตำบลโพธิ์งาม | ||
ชาวบ้านตำบลโพธิ์งามส่วนใหญ่ทำไม้กวาดเป็นอาชีพหลัก เนื่องจากพื้นที่มีการปลูกหน่อไม้ไผ่ตงจำนวนมาก และมีสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์โอทอปหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จากเถาวัลย์ ไม้ดอกไม้ประดับ หมวกไม้ไผ่ หมวกพลาสติก เฟอร์นิเจอร์จากล้อเกวียน หน่อไม้ไผ่ตง และกิ่งไผ่ตง ผู้ที่มาเที่ยวสามารถติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของตำบล มีเต๊นท์ที่พักบริการ และมีจักรยานให้เช่า ซึ่งสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้แก่ สวนผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ ชมการเพาะชำกิ่งไม้ของหมู่บ้านเขาน้อย พักแรมกับชาวบ้านริมน้ำตก เรียนรู้วิถีเกษตร และความอุดมสมบูรณ์ของพืชสวนท้องถิ่น นอกจากนี้หากเดินทางไปอีกไม่ไกลนัก จะได้ชมการเพาะชำต้นไม้ขนาดใหญ่ที่บ้านโคกกรวด และยังสามารถเชื่อมเส้นทางไปสู่น้ำตกธารทิพย์ น้ำตกส้มป่อยและน้ำตกตะคร้อที่สวยงามได้อีกด้วย |
||