WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

แก่งหินเพลิง
ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ใสใหญ่) หรือ ขญ. 9 อำเภอนาดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทาย และสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลาก ล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งหินเพิง หากพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้วแก่งหินเพิงนี้จะกลายเป็นลานโขดหินกว้างใหญ่ การล่องแก่งหินเพิงจะผ่านแก่งต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร แก่งงูเห่า การล่องใช้แพยางนั่งประมาณ 8-10 คน ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ. 9  ระยะเวลาในการล่องแก่งประมาณ 20 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมล่องแก่งหินเพิง และสามารถพักค้างแรมแบบแค้มปิ้ง หรือพักรีสอร์ทในเขตอำเภอนาดีก็ได้
การเดินทาง ใช้เส้นทางสายกบินทร์บุรี - นครราชสีมา หลวงหมายเลข 304 จากปากทาง กม.ที่ 11 เข้าไปประมาณ 25 กิโลเมตร  แล้วจอดรถไว้ที่ ขญ.9 และเดินเท้าอีก 45 นาทีก็ถึงแก่งหินเพิง

น้ำตกธารทิพย์

ตั้งอยู่ที่บ้านเนินหินตั้ง ตำบลหนองแก้ว เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินต่างระดับ บางช่วงไหลผ่านลานหินบริเวณกว้าง บางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก สามารถลงเล่นน้ำได้ มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายของลำธารลักษณะค่อนข้างสูงชัน สภาพโดยทั่วไปยังเป็นป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างดี

การเดินทาง  จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสายปราจีนบุรี - ประจันตคาม เส้นทางหลวงหมายเลข 3452 ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข
33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม หรือ จะใช้เส้นทางสี่แยกเนินหอมแล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม  แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน รพช. ตรงไปจนถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 9 จะเห็นป้ายน้ำตกธารทิพย์  เข้าไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร


อุทยานแห่งชาติทับลาน

ครอบคลุมพื้นที่ของตำบลบุพราหมณ์ ในเขตอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี, อำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,240 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,400,000 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2524
ภายในอุทยานฯ มีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่


น้ำตกตะคร้อ และน้ำตกสลัดได

ตั้งอยู่ที่บ้านตะคร้อ ตำบลบุฝ้าย น้ำตกตะคร้อ อยู่ห่างจากด่านตะคร้อ ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นแก่งน้ำกว้าง มีสะพานแขวนทอดข้ามน้ำตกตะคร้อ ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นเนินเขา ส่วนทางด้านฝั่งขวาเป็นป่าโปร่ง เหมาะแก่การพักผ่อน จากน้ำตกตะคร้อมีทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึง น้ำตกสลัดได เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม หากจะเดินทางเข้าไปชมน้ำตกสลัดไดควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 ที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อ โทร. 0 1755 4852, 0 9913 5058 เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามทางถนนปราจีน-ตะคาม (เส้นทางหลวงหมายเลข 3452) ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนน รพช. หรือจะใช้เส้นทางสี่แยกเนินหอมแล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนน รพช. ประมาณ 16 กิโลเมตร และเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จนถึงตัวน้ำตกตะคร้อ


น้ำตกส้มป่อย
ตั้งอยู่ที่บ้านเขาน้อย ตำบลบุฝ้าย เป็นน้ำตกที่ไม่สูงมากนัก ไหลลดหลั่นผ่านแก่งหิน เป็นระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร มีแอ่งน้ำที่ลงเล่นน้ำได้ตลอดลำธาร
การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกันกับน้ำตกธารทิพย์ ก่อนถึงน้ำตกตะคร้อจะมีแยกซ้ายมือบริเวณกิโลเมตรที่ 14 เข้าไปจนถึงตัวน้ำตกอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

น้ำตกห้วยเกษียร

บริเวณตัวน้ำตกเป็นป่าเขา ปากทางแยกเข้าน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่หมู่บ้านขอนขวาง ตำบลดงขี้เหล็ก ซึ่งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 166 หรือห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 15 กิโลเมตร แยกซ้ายมือเข้าสู่ตัวน้ำตกอีกประมาณ 4 กิโลเมตร



น้ำตกธารรัตนา

ตั้งอยู่ที่ตำบลเนินหอม ระยะทางประมาณ 100 เมตร จากถนนสายเนินหอม-เขาใหญ่ กม.ที่ 16 ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองปราจีนบุรีประมาณ 25 กิโลเมตร มีสภาพเป็นแก่งน้ำไหลตามหุบเขาในเทือกเขาใหญ่มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน มีกิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาของน้ำตก

 


น้ำตกเขาอีโต้
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านพระ น้ำตกเขาอีโต้เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ความสูงไม่มากนัก สภาพบริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่ง มีน้ำมากเฉพาะในช่วงฤดูฝน และก่อนถึงน้ำตกประมาณ 400  เมตร  มีอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์หรืออ่างเขาอีโต้  จากอ่างเก็บน้ำจะมีถนนขึ้นไปถึงยอดเขา  เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบ  ระยะทางประมาณ  11  กิโลเมตร   และช่วงกิโลเมตรที่ 6  จะมีเนินพิศวง  คือถ้าจอดดรถแล้วเข้าเกียร์ว่างไว้รถจะไหลขึ้นเนินได้  ซึ่งเกิดจากภาพลวงตาจากภูมิประเทศโดยรอบ
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 33 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 160-161 ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

ก่อสร้างเป็นเขื่อนดิน สูงประมาณ 16.50 เมตร ยาว 740 เมตร จากปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำให้เลี้ยวซ้ายจะมีถนนขึ้นไปจนถึงยอดเขาเพื่อชม ทัศนียภาพโดยรอบ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร และช่วงกิโลเมตรที่ 6 จะเป็น เนินพิศวง หรือ เนินมหัศจรรย์ ยาวประมาณ 150 เมตร ถ้าจอดรถแล้วปล่อยเกียร์ว่างไว้รถจะไหลขึ้นเนินได้ซึ่งเกิดจากภาพลวงตาจาก ภูมิประเทศโดยรอบ

การเดินทาง จากสี่แยกเนินหอม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 33 ไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกให้แยกซ้ายมือ ระหว่างกิโลเมตรที่ 160-161 เลยไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์


ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ

อยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ตำบลโคกปีบ ภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราว ตรัสรู้ จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ในวันวิสาขบูชาจะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ

      การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสุวินทวงศ์ ใช้เส้นทางสายปราจีนบุรี-อำเภอพนมสารคาม ทางหลวงหมายเลข 319 ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงวัดแห่งนี้


หลวงพ่อทวารวดี

ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วิหารหน้าที่ว่าการอำเภอ ศรีมโหสถ  เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางประทานธรรมสร้างจากหินทรายสีเขียวขนาดสูง 1.63 เมตร อายุประมาณพุทธศตวรรที่ 12 - 14 ขุดพบในนิคมโรคเรื้อน โรงพยาบาลคามิโลทางทิศใต้นอกเมืองศรีมโหสถ


กลุ่มโบราณสถานสระมรกต

ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดแต่งได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลักอยู่บนศิลาแลง ที่ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท โดยที่ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตรหรือร่ม รอยพระพุทธบาทคู่นี้คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยทวารวดีถึงสมัยลพบุรี นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ใกล้กันมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพบพระพุทธรูปและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมี สระมรกต เป็นสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดกว้างประมาณ 115 เมตร ยาว 214 เมตร ลึก 3.50 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ สันนิษฐานว่าขุดขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำ และได้นำศิลาแลงไปใช้เป็นสถาปัตยกรรม นอกจากสระมรกตแล้วยังมี สระบัวหล้า และ ศูนย์นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรีได้ใช้สถานที่แห่งนี้จัดงาน "มาฆปูรมีศรีปราจีน" เป็นประจำทุกปี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3727 6084

การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามถนนสุวินทวงศ์ ใช้เส้นทางหมายเลข 319 สายปราจีนบุรี-อำเภอพนมสารคาม ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงกลุ่มโบราณสถานแห่งนี้


วัดแก้วพิจิตร

ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านขวาของแม่น้ำบางปะกง ถนนแก้วพิจิตร ตำบลหน้าเมือง ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี      ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดนิกายธรรมยุติวัดแรกของจังหวัดปราจีนบุรี สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2422 โดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรีชื่อนางประมูล โภคา (แก้ว  ประสังสิต) ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมาในปีพ.ศ. 2461 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ชำรุกผุพัง จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและลวดลายประดับอาคารผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรปและเขมร
พระประธานสร้างเมื่อปีพ.ศ.2462 โดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า หลวงพ่ออภัยวงศ์ หรือ หลวงพ่ออภัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศรผู้สร้าง และเป็นพระพุทธรูปปางอภัยทาน  ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดบนแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญ วาดโดยช่างหลวงในรัชกาลที่ 6 ฝาผนังด้านนอกพระอุโบสถมีภาพปูนปั้นเรื่องรามเกียรติ์  ด้วยพระอัฉริยภาพของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ท่านได้สร้างปริศนาธรรมแทรกไว้ตามที่ต่างๆ เช่น นาฬิกาที่ไม่ยอมเที่ยงอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนแก้ว สร้างปริศนาด้านการปกครอง เช่น รูปสิงห์โตตัวผู้เพียงตัวเดียวไว้ที่บานหน้าต่าง   ด้านหน้าพระอุโบสถมี อาคารเรียนหนังสือไทย นักธรรมบาลีเป็นอาคารคอนกรีต รูปสถูปโดม ศิลปะกรีกหรือโรมันอยู่หลังหนึ่ง
นอกจากนั้นภายในวัดแก้วพิจิตรยังมีหอพระไตรปิฎกและศาลาตรีมุขที่ท่าน้ำ บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น เปิดเวลา 08.30–17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.  08 1481 1740, 08 6831 2412, 0 3721 2795,


พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์

ตั้งอยู่เลขที่  135  ถนนปราจีนตคาม  ตำบลดงขี้เหล็ก  อำเภอเมือง  จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 6  กิโลเมตร ทางไปอำเภอประจันตคาม ด้านซ้ายมือ เป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่าของเอกชน เก็บสะสมตะเกียงไว้มากที่สุดในประเทศไทย  พื้นที่โดยรอบปลูกพรรณไม้สวยงามนานาชนิด  อีกทั้งยังมีสัตว์ต่าง ๆ เลี้ยงไว้มากมาย เมื่อก้าวเข้าสู่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะได้พบกับตะเกียงจำนวนมหาศาล ซึ่งแขวนอยู่ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นตามที่จอดรถ  ร้านค้า บนเพดาน ตามอาคารต่างๆ  แม้กระทั่งห้องน้ำ  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีอาคารทั้งหมด 5  อาคาร ประกอบด้วย
อาคารที่ 1  อาคารราชาวดี  เป็นอาคารสองชั้น  ชั้นล่าง จัดแสดงสิ่งของโบราณหลากหลายชนิด เช่น  เครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง  เตารีดโบราณ  เครื่องปั้นดินเผา  ตู้เย็นใช้น้ำมันก๊าซ เป็นต้น  ในส่วนของชั้นสองเป็นชั้นที่รวบรวมตะเกียงเจ้าพายุหลากหลายยี่ห้อ  ทั้งยังมีตะเกียงที่มีการใช้งานที่แตกต่างกันไปเช่น  ตะเกียงเรือ ตะเกียงฉายสไลด์  นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดของส่วนประกอบตะเกียงให้ศึกษาอีกด้วย


ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ตั้งอยู่เลขที่ 32/7 หมู่ 12 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2.5 กิโลเมตร ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นโดยทรัพย์สินส่วนตัว ในปี พ.ศ.2452 เพื่อถวายเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราว เสด็จประพาสมณฑลปราจีน มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นตึกสองชั้นแบบยุโรป สมัยเรอเนสซองส์ มีมุขด้านหน้า ตรงกลางเป็นโดม ผนังด้านนอกเป็นปูนปั้นลายพฤกษาประดับซุ้มประตูและหน้าต่าง ภายในตกแต่งแบบตะวันตก ชั้นล่าง มีการจัดแสดงเครื่องมือทางการแพทย์ในสมัยก่อน รวมทั้งสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคต่างๆ ชั้นบน มีการจัดแสดงหนังสือและตำรายาโบราณ และหินบดยาในสมัยทวารวดี โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว ภายในตึกจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร โดยจะเป็นศูนย์การรวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี อีกทั้งยังเป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และการแพทย์ของท้องถิ่น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรบำบัดยารักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ ฝังเข็ม และมีการแปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง จำหน่ายในราคาย่อมเยา โดยใช้ชื่อว่า "ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร" เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-20.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3721 1088


ตลาดบ้านโง้ง บ้านต้น
ตลาดบ้านโง้ง บ้านต้น ตลาดบ้านโง้ง บ้านต้น เป็นตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์จากไม้เก่าหรือไม้ไผ่ของชุมชนชาว โพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งอยู่ริมถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) กม. 172
ตลาดแนวถนนสุวรรณศร ทั้งสองฝั่งจะถูกจับจองจากชาวบ้านที่นำสินค้าพื้นบ้านที่สรรค์สร้างจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่น บวกกับความคิดริเริ่มของชุมชนมาประดิษฐ์และผลิตสินค้าพื้นเมืองจำหน่ายให้ นักท่องเที่ยวที่ใช้ ถ.สุวรรณศร สัญจรไปมา บ้างก็ซื้อเป็นของฝาก ผู้ที่เดินทางไปมาทั้งเครื่องเรือนเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านเรือนเช่น ชุดรับแขก เตียงนอน ซุ้มเรือนไทยมุงหญ้าคา ซุ้มเรือนไม้เก่า, เครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ตะแกรง ฝาชีลวดลายต่าง ๆ, อุปกรณ์สำหรับจัดสวน เช่น รั้วไม้ กระถางปลูกกล้วยไม้ เป็นต้น
จึงขอแนะนำตลาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่หรือไม้เก่า ชิ้นงานแต่ละชิ้นมีความสวยงามทนทานไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักราคาแพง หรือเลือกของใช้ต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ณ บ้านโง้ง บ้านต้น ตำบลโพธิ์งาม มาชมมนต์เสน่ห์ของพันธุ์ไผ่ พันธุ์ไม้ล้มลุกที่มองผ่านแล้วอาจจะมีค่าไม่มากนัก แต่เนื้อไม้สีทองของไผ่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นของใช้นานาชนิด ประดิษฐ์คิดสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานที่นับว่ามีเพียงชิ้นเดียวในโลกนำมาใช้ ประโยชน์ได้นานัปการ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 โทร.0 3731 2282, 0 3731 2284 องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์งาม โทร.0 3729 1274

เมืองไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ-สมุนไพรบ้านดงบัง- ถนนผลไม้บ้านหนองจวง-หนองกันเกรา

เมืองไม้ดอกไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ-สมุนไพรบ้านดงบัง - ถนนผลไม้บ้านหนองจวง-หนองกันเกรา เมืองปราจีนบุรี เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ประชาชนจึงประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นส่วน ใหญ่โดยเฉพาะทำสวนผัก – สวนผลไม้ – เพาะพันธุ์ไม้/ดอกไม้ประดับ ผลผลิตมีคุณภาพ มีความหลากหลาย ราคาย่อมเยา จังหวัดปราจีนบุรีจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และหากนำจักรยานติดรถมาด้วยสักคันปั่นจักรยานชมสวนผลไม้ ศึกษาสรรพคุณสมุนไพรไทย และสัมผัสภูมิปัญญาชาวบ้านในการเคลื่อนย้ายพรรณไม้ต้นใหญ่ยักษ์ไปปลูกประดับ สวน แวะชม แวะซื้อ แวะชิม ในแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ซ้ำแบบถึง 3 จุดด้วยกัน


พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำบ้านบ่อทอง
ตั้งอยู่ภายในบริเวณที่ทำการ อบต.บ่อทอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติการทำเหมือง แร่ทองคำ เป็นสถานที่รวบรวมเอกสารวัสดุโบราณ สิ่งของ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ทองคำในท้องถิ่น ระหว่างปี พ.ศ.2416-2521 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระปรีชากลการเจ้าเมืองปราจีนบุรี เป็นผู้ดำเนินการทำเหมืองด้วยวิธีการขุดบ่อ ซึ่งยังมีหลักฐานของโรงตำแร่ เตาหลอม และบ่อเหมืองทองคำปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3746 0037
การเดินทาง  จากศาลพระนเรศวรมหาราช  มาตามถนนสุวรรณศรประมาณ  40  กิโลเมตร  จะถึง  สี่แยกสามทหาร จากสี่แยกสามทหารเดินทางอีกประมาณ  7  กิโลเมตร  ถึงป้อมตำรวจ  หนองสังข์-วังตะเคียน แล้วแยกขวาแล้วเดินทางอีกประมาณ   2 กิโลเมตร ถึงที่ทำการ อบต.บ่อทอง

โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ

ตั้ง อยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์ โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบด้วย กลุ่มโบราณสถานกลางเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัย ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ และเศษเครื่องปั้นดินเผา สมัยลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภูเขาทอง เป็นเจดีย์รูปกลม ลักษณะเหมือนโอคว่ำ สมัยทวารวดี โบราณสถานหมายเลขที่ 25 เป็นเทวาลัย รากฐานอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 โบราณสถานสระแก้ว เป็นโบราณสถานที่เป็นสระน้ำโบราณ สระน้ำขุดลงไปในชั้นของศิลาแลงธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นอกเมืองศรีมโหสถ ตัวสระเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีทางลงทำเป็นขั้นบันได ผนังขอบสระทุกด้านมีการแกะสลักภาพนูนต่ำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น รูปช้าง สิงห์ หมู กินรี งูพันเสา สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ชั้นสูง สันนิษฐานว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา อายุราวพุทธศตวรรษ ที่ 10-11

การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร  ไปตามทางหลวงหมายเลข 319  กิโลเมตรที่ 130 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3070 อีกประมาณ 1 กิโลเมตร เมืองโบราณจะอยู่ทางด้านขวามือ  โบราณสถานตั้งอยู่กระจัดกระจาย สามารถเข้าได้หลายทางและสามารถทะลุถึงกันได้


สวนนงนุช

ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งโพธิ์  เป็นรีสอร์ทที่รวบรวมความหลากหลายในเนื้อที่กว่า  2,000   ไร่  มีพื้นที่ติดกับเขาใหญ่ มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด และหลากหลายกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว  เปิดบริการเวลา  08.00- 18.00น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  โทร. 0 3740 1371
การเดินทาง   จาก กรุงเทพ ฯ  โดยใช้เส้นทางสายรังสิต - องครักษ์ ผ่านตัวเมืองนครนายก เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข  33  สู่สี่แยก กบินทร์บุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน  304 ตรงมาประมาณ  22  กิโลเมตร จะเห็นป้ายสวนนงนุช ปราจีนบุรี  ใช้เวลาในการเดินทางเพียง  2  ชั่วโมงครึ่ง


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี

ตั้งอยู่ทางด้านหลังของศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ 200 เมตร เป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุในเขต 7 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราด และระยอง ภายในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปเคารพในศาสนาฮินดู ศิวลึงค์ ทับหลัง เครื่องใช้สำริด และ จัดแสดงศิลปะในประเทศไทยสมัยต่างๆ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ต่อเนื่องจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ รวมทั้งเครื่องถ้วยสังคโลกที่พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี นอกจากนั้นยังจัดสถานที่ส่วนหนึ่งสำหรับนิทรรศการชั่วคราวในโอกาสต่าง ๆ ด้วย 

โดยในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทแหล่งท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2547 

เวลาเปิด-ปิด : พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร 

อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท  

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3721 1586

การเดินทาง ใช้เส้นทางสายกรุงเทพ  – นครนายก – ปราจีนบุรี  หรือกรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา – อ.พนมสารคาม – ปราจีนบุรี


นกเป็ดน้ำอุทยานกบินทร์เฉลิมราชย์

นกเป็ดน้ำอุทยานกบินทร์เฉลิมราชย์ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 33 ตำบลเมืองเก่า ระหว่างช่วงอำเภอประจันตคาม-กบินทร์บุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 206-207 ทางซ้ายมือจะมีหนองน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 900 ไร่ ในระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีนกเป็ดน้ำจากไซบีเรียมาอาศัยเป็นจำนวนมากนับพันตัว เปิดตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น


อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์
ตั้ง อยู่ที่สวนสาธารณะลายพระหัตถ์ศรีมหาโพธิ ตำบลหนองโพรง อนุสาวรีย์ลายฝีพระหัตถ์นี้เป็นลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ซึ่งได้เสด็จประพาสปราจีนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2451 ทรงจารึกไว้บนแผ่น ศิลาแลง ซึ่งเป็นซากโบราณวัตถุสมัยลพบุรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13
การเดินทาง    อนุสาวรีย์อยู่เลยจากที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวาง ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยอยู่เยื้องทางเข้าหลุมเมือง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่  สำนักงานศิลปากรที่ 5 โทร. 0 3721 2610

หลุมเมือง

ตั้งอยู่ที่ ซอยเทศบาล 10 ต.ศรีมห่โพธิ์ (ตรงข้ามอนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์) มีลักษณะเป็นหลุมขนาดต่าง ๆ ขุดเจาะลึกลงไปในพื้นศิลาแลง ไม่ทราบว่าขุดขึ้นในสมัยใด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2451 มีพระราชสันนิษฐานว่า “เป็นหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายเครื่องประดับปรางค์ปราสาท” มีหลุมทั้งหมดประมาณ 48 หลุม แต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่ากล่าวว่าเป็นหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้าน เรียกว่า การเล่นหลุมเมือง


โบราณสถานพานหิน
ตั้งอยู่ที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง เป็นโบราณสถาน ที่ก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ กว้างด้านละ 15.50 เมตร สูง 3.50 เมตร มีมุขยืนออกไปทั้งสี่ด้าน สันนิษฐานว่าประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูปซึ่งแต่เดิมตะแคงอยู่ลักษณะคล้ายพาน จึงเรียกว่า “พานหิน” นอกจากนี้ยังพบศิลาแลงทรงกลม สกัดเป็นรูปฐานเชิง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จทอดพระเนตรโบราณสถานแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451
การเดินทาง เทวสถานพานหินอยู่เลยจากที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวางประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วแยกขวาไปอีกประมาณ 600 เมตร

ค้างคาวแม่ไก่วัดบางกระเบา
วัดบางกระเบาอยู่บนถนนสายบ้านสร้าง-บางแตน ต.บางกระเบา ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านสร้างประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดัง คือ "หลวงพ่อจาด" ภายในบริเวณวัดบางกระเบา จะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับพันตัวอาศัยอยู่ตามต้นไม้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3727 1475

วัดบางแตน
วัดแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดี เด่นอีกแห่งหนึ่งของอำเภอบ้านสร้าง ภายในมีพระพุทธรูปที่ชาวบ้านนับถือชื่อว่า "หลวงพ่อคุ้ม" และยังมีสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับ ร.5 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินหัวเมืองปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่เก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ ถ้วยชาม ตะเกียงเจ้าพายุ เรือบิณฑบาตรพระราชทาน ฯลฯ และในยามเย็นสามารถชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง สัมผัสความสงบร่มเย็นของพรรณไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้ภายในบริเวณวัด
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3729 5179
การเดินทาง ใช้เส้นทางสายบ้านสร้าง-บางแตน เลยวัดบางกระเบาไปประมาณ 10 กม.

พิพิธภัณฑ์พระครูอุทัยธรรมธารี (เส็ง สุขิโต)
อยู่ถัดจากศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปทางจังหวัด สระแก้ว เป็นสถานที่รวบรวมโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์และศิลปะวัตถุของประเทศ เพื่อนบ้าน รวมทั้งของที่จัดทำขึ้นใหม่เลียนแบบศิลปะโบราณ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีโบราณวัตถุประมาณ 900 ชิ้น อาทิ กำไลสำริด ภาชนะดินเผา เครื่องเคลือบ พระพุทธรูปปางต่างๆ เหรียญเงินตราของประเทศเพื่อนบ้านสมัยก่อน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.

กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ
ตั้งอยู่ที่ค่ายพรหทโยธี ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ในสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ สนามกอล์ฟ (9 หลุม) กิจกรรมทางทางทหารต่างๆ ชมรมขี่ม้า (เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-09.00 น.) ชมรมยิงปืน (เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 น.) ศูนย์กีฬา พิพิธภัณฑ์และอนุเสาวรีย์ทหารหาญ พุทธสถานและอุทยานธรรม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.รอ.2 โทร. 0 3721 1439 ต่อ 63315, 0 6394 1619

ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

 ประดิษฐานอยู่ ณ สี่แยกเนินหอม อยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีไปทางทิศเหนือ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 320 ประมาณ 9 กิโลเมตร วงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะตั้งอยู่ทางขวามือ ศาลแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในท่าประทับยืน เหตุที่สร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ท่านในคราวกรีฑาทัพจากกรุง ศรีอยุธยา เพื่อไปปราบนักพระสัฏฐาแห่งเมืองละแวก กัมพูชา  พ.ศ. 2132  ระหว่างการเดินทางทัพได้หยุดพักทัพในเขตปราจีนบุรี ประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงนิยมมาสักการะบูชาเพื่อเป็น สิริมงคล
การเดินทาง   จากนครนายกไปตามทางหลวงหมายเลข  33 หลักกิโลเมตรที่  158    ที่เรียกว่า วงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ปากทางเข้าสู่ตัวเมืองปราจีนบุรี


สวนพันธุ์ไผ่

ตั้งอยู่ที่ตำบลเนินหอม  มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่  อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์  เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไผ่นานาชนิดปลูกไว้เพื่อการศึกษาและขยายพันธุ์  ภายในบริเวณส่วนหนึ่งเป็นที่ตั้งของทัณฑ์สถานเปิดบ้านเนินสูงซึ่งใช้เป็น สถานที่ฝึกวิชาชีพของนักโทษชั้นดี เช่น การตัดต้นไผ่  ปลูกผักสวนครัว  ทำเฟอร์นิเจอร์   บริเวณริมถนนด้าานหน้าสวนมีพันธุ์ไผ่ ไผ่หวาน ไผ่ตง ไผ่สีทอง พันธุ์หน่อไม้ จำหน่าย  เปิดระหว่างเวลา 08.00 - 16.00 น. โทร 0 3721 9904 โทรสาร 0 3721 2661
การเดินทาง  จากทางหลวงหมายเลข 33 เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกเนินหอม ( วงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3077  สายเนินหอม- เขาใหญ่ ซึ่งเป็นถนนไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร   


สวนนกวัดสันทรีย์

ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดโบสถ์ เป็นที่ชุมนุมของนกนานาชนิด เช่น นกแขวก นกกาน้ำ นกกระยาง จำนวนนับหมื่นจะมาชุมนุมกันทุกปี ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับนักดูนก 
การเดินทาง ใช้เส้นทางเข้าทางเดียวกับวัดโบสถ์แต่มีทางแยกขวามือ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 18 กิโลเมตร


วัดสง่างาม
สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2514 และได้ทำการซ่อมแซมอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 เมื่อถึงเดือนกรกฎาคมและเดือนตุลาคมของทุกปี น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีจะท่วมสูงบริเวณรอบพระอุโบสถประมาณ 1 เมตร ทำให้พระภิกษุลงไปทำสังฆกรรมต่างๆ นั้นเป็นไปด้วยความลำบาก ดังนั้นทางวัดจึงได้ทำการยกฐานพระอุโบสถให้สูงขึ้นประมาณ 1.59 เมตร ในขณะที่ได้ทำการบูรณะอยู่นั้นได้มีประชาชนที่มีความศรัทธาเลื่อมใสได้มาลอด ใต้ท้องพระอุโบสถ โดยตั้งจิตอธิษฐานให้หายจากโรคภัยต่างๆ รวมทั้งโชคลาภ ซึ่งประชาชนที่สมหวังและประสบความสำเร็จได้บอกต่อๆ กันไปจนเป็นที่รู้จักของประชาชนจำนวนมาก และเป็นวัดแห่งแรกที่ได้มีการยกพระอุโบสถขึ้นของประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังคงมีประชาชนจำนวนมากทั้งในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัด ต่างๆ เดินทางมาขอพรกันเป็นจำนวนมากทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการต่างๆ จะมีประชาชนเหมารถทัวร์มาที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 3069 (ปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ์) กม.ที่ 7 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางอีก 1 กม.  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่วัดสง่างาม โทร. 0 3721 4490, 0 6097 5803

วัดโบสถ์

อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองปราจีนบุรี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ภายในวัดมีพระพุทธรูป 3 องค์ ประดิษฐานเรียงรายไปตามริมแม่น้ำ คือ พระพุทธรูปปางลีลา พระนามว่า “พระสิริมงคลนิมิต” พระพุทธรูปปางประทับนั่งห้อยพระบาท พระนามว่า “พระสรรพสิทธินาวา” พระพุทธรูปปางประทับนอน พระนามว่า “พระมหาชินไสยาสน์” ภายในวัดมีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3728 7172
การเดินทาง จากถนนเทศบาลดำริถึงสี่แยกถนนสุวินทวงศ์ ทางหลวงหมายเลข 319 แล้วตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 3071 ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร


ตลาดหนองชะอม

เป็นตลาดกลางขายสินค้าพื้นเมือง ของฝากจังหวัดปราจีนบุรีและจากจังหวัดอื่น ๆ จึงเป็นจุดพักรถของนักท่องเที่ยวที่ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 33 กม.151 ที่มีจุดหมายปลายทางในสถานที่ต่าง ๆ
ของขายในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าภายในจังหวัดปราจีนบุรี โดดเด่นด้วยผลไม้ตามฤดูกาล - ทุเรียนเนื้อหนา กระท้อนเนื้อนุ่ม มังคุดหวานหอม ส้มโอ มะไฟ และหน่อไม้ไผ่ตงซึ่งปัจจุบันมีขายตลอดทั้งปี เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีหน่อไม้ไผ่ตงและปลูกจำนวน มากอีกทั้งมีคุณภาพ หน่ออ้วน ๆ รสหวาน เมื่อนำมาปรุงอาหารทั้งคาวหวานรับรองว่าอร่อยมาก หรือจะเป็นสินค้าแปรรูปอื่น ๆ เช่น แยมผลไม้ หน่อไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม ทุเรียนทอด ขนุนทอด ในตลาดหนองชะอมก็มีให้เลือกมากมาย
นอกจากนี้แม่ค้ายังรับสินค้าจากต่างถิ่นมาจำหน่ายในช่วงนอกฤดูผลไม้ของ ปราจีนบุรี สินค้าจึงมีความหลากหลายผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นักท่องเที่ยวที่เดินทางจะขากลับหรือขาไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวในเขตจังหวัด ปราจีนบุรีหรือจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน กิจกรรมล่องแก่งหินเพิง ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้น จะแวะเลือกซื้อไปรับประทานระหว่างการเดินทางหรือเป็นของฝากกลับบ้านสามารถ ซื้อได้ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ แม่ค้าเปิดขายทุกวัน

การเดินทาง จากกรุงเทพมหานคร - เข้าตัวเมืองจังหวัดนครนายก ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าไปยังจังหวัดปราจีนบุรี ขับรถจากแยกในตัวเมืองนครนายกประมาณ 14 กิโลเมตร บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 151 ตลาดหนองชะอมจะอยู่ด้านขวามือ หากจะแวะซื้อต้องกลับรถ เลือกจอดได้ตลอดแนวตลาด
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284


ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและหัตถกรรม ตำบลโพธิ์งาม

ชาวบ้านตำบลโพธิ์งามส่วนใหญ่ทำไม้กวาดเป็นอาชีพหลัก เนื่องจากพื้นที่มีการปลูกหน่อไม้ไผ่ตงจำนวนมาก และมีสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์โอทอปหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จากเถาวัลย์ ไม้ดอกไม้ประดับ หมวกไม้ไผ่ หมวกพลาสติก เฟอร์นิเจอร์จากล้อเกวียน  หน่อไม้ไผ่ตง และกิ่งไผ่ตง  ผู้ที่มาเที่ยวสามารถติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของตำบล มีเต๊นท์ที่พักบริการ และมีจักรยานให้เช่า ซึ่งสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้แก่ สวนผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ ชมการเพาะชำกิ่งไม้ของหมู่บ้านเขาน้อย พักแรมกับชาวบ้านริมน้ำตก เรียนรู้วิถีเกษตร และความอุดมสมบูรณ์ของพืชสวนท้องถิ่น นอกจากนี้หากเดินทางไปอีกไม่ไกลนัก จะได้ชมการเพาะชำต้นไม้ขนาดใหญ่ที่บ้านโคกกรวด และยังสามารถเชื่อมเส้นทางไปสู่น้ำตกธารทิพย์ น้ำตกส้มป่อยและน้ำตกตะคร้อที่สวยงามได้อีกด้วย
การเดินทาง  ใช้เส้นทางหมายเลข 33  (นครนายก-สระแก้ว) เมื่อถึงสี่แยกสมเด็จพระนเรศวร ตรงไปอีกประมาณ 17 กิโลเมตร (ก่อนถึงตัวอำเภอประจันตคาม) มีทางแยกซ้ายเข้าสู่ตำบลโพธิ์งาม สอบถามรายละเอียดที่ อบต.โพธิ์งาม โทร. 0 3741 0388