❝ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว unseen อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเพขรบุรี ได้รับความยอมรับในความสวยวางของถ้ำแห่งนี้ และจัดเป็นสถานที่ที่องเที่ยวสำคัญในจังหัดเพชรบุรี ❞
ประวัติ ถ้ำเขาหลวง
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงเสด็จมาพร้อมโอรส 2 พระองค์ และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ ร่วมกันสร้างพระ และทรงบูรณะ เช่น สร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จมาบูรณะบำรุงเพิ่มเติมต่อ และได้ทรงได้พระราชทานนามว่า วิมานจักรี ปัจจุบันมีพระพุทธรูปในถ้ำรวม 170 องค์ มีเจดีย์ในถ้ำ 6 องค์ ภายในถ้ำแบ่งพื้นที่โดยธรรมชาติเป็นห้องๆ คือ
ห้องแรก มีพระพุทธบาทจำลอง มีหินที่เกิดจากน้ำหยดลงมาเป็นรูปเหมือนเต่า ห้องนี้หินงอก หินย้อยสวยมา และหินย้อยบางก้อนถูกคนลักตัดเอาไป
ห้องที่ 2 เดินต่อไปจากห้องแรก เดินสะดวกถึงกันหมดทั้ง 3 ห้อง มีพระพุทธรูปเรียงรายรอบห้อง มีปล่องให้แสงสว่างเข้ามาพื้นถ้ำ นอกจากสวยแล้วยังให้ความสว่าง มีพระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ลงมาเที่ยวถ้ำ จะมากราบไหว้บูชา มีธูปเทียนจำหน่ายให้นำไปบูชา มีพระนาคปรก และที่ฐานพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ยังมีตราประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 1 – 5 จารึกไว้ด้วย
ภายในถ้ำทุกห้องงามด้วยหินงอกหินย้อย และมีอากาศเย็นสบาย ไม่อับชื้น ถ้ำเขาหลวงมีชาวไทย ชาวต่างประเทศ ลงมาเที่ยวกันนานนับร้อยปีแล้ว มีบันทึกของชาวยุโรปและภาพปรากฏในงานพิมพ์ของอังรี มูโอ นักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังไทย ลาว กัมพูชา แล้วกลับไปตีพิมพ์ไว้เมื่อ พ.ศ.2407 ถ้ำเขาหลวงนี้สุนทรภู่ได้เคยมาเที่ยวและเล่าไว้ในนิราศเมืองเพชร
บันไดขึ้นสู่ถ้ำเขาหลวง ต้องเดินเท้าขึ้นบันไดยาว เดินไม่นานก็จะถึงปากถ้ำตลอดสองทางจะมีต้นไม้ร่มเย็นตลอดทาง และจะมีฝูงลิง ตลอดเส้นทางเดินขึ้น
พระพุทธรูปปางปรินิพพาน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีความยาว 14 เมตร ในสมัยรัชกาลที่ ๔ สร้างได้เพียงครึ่งองค์ (9 เมตร) ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้โปรดฯ ให้สร้างต่ออีก 5 เมตร จนแล้วเสร็จสมบูรณ์
หลวงพ่อโต พระพุทธรูปหลวงพ่อโตจะอยู่ห้องที่ 2 มีจำนวนมากเรียงเป็นแนวเส้นตรงทั้งด้านข้างและด้านหลังขององค์หลวงพ่อโต
พระพุทธรูปเก่าที่สุดในถ้ำเขาหลวง พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนฐานประดับด้วยซุ้มอย่างสวยงามนี้ มีอยู่องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้โปรดฯ ให้สร้างพระพุทธรูปปูนปั้นครอบไว้อีกชั้นหนึ่งด้วยเกรงว่าพระพุทธรูปสร้างด้วยไม้ เวลาผ่านนานไปจะชำรุดลง เบื้องหลังพระพุทธรูปปรากฏแผ่นศิลาจารึกในสมัยรัชกาลที่ ๔ เนื้อหาโดยย่อให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า "เทวดา หรือมนุษย์ผู้ใดได้มากราบไหว้พระพุทธรูปองค์นี้นับว่าเป็นวาสนาดี"
พ่อปู่ฤๅษีนารายณ์ ท้ายสุดของถ้ำเขาหลวง ก่อนจะมาถึงตรงนี้จะพบเห็นทวารบาลเฝ้าประตูถ้ำ ซึ่งในอดีตมีขโมยเข้ามาในถ้ำพยายามขุดหาสมบัติแต่ไม่เจอ มีร่องรอยการขุดถ้ำเห็นเป็นเพียงเศษอิฐเศษหินเท่านั้น ขโมยจึงได้ทำการตัดเศียรทวารบาลไปขาย กรมศิลปากรจึงได้ทำการปั้นขึ้นมาใหม่ จากนั้นมาไม่นานก็จะถึง พ่อปู่ฤๅษีนารายณ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำเขาหลวง สร้างขึ้นเมื่อ 13 เมษายน พ.ศ.2529 เชื่อกันว่าขอโชคขอลาภจะสัมฤทธิ์ผล เป็นมงคลก่อนเดินทางกลับ
เวลาเปิดทำการ