WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

โรงแรมดิโอเชียงคาน บริการห้อพักติดริมแม่น้ำโขง
อุทยานแห่งชาติภูเรือ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ มีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 เดือนที่เหมาะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม ถึงมีนาคม ภูเรือเป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่

 


ภูลมโล

ภูลมโลตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีเนื้อที่ติดต่อกัน3จังหวัดคือ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และจังหวัดลย แต่นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางจากจังหวัดเลยเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็สถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม มาท่องเที่ยวกันมากต่อจากการมาเที่ยวและพักผ่อนที่เชียงคาน

 


อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้ง ทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ


แก่งคุดคู้  

เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้งมองเห็นเกาะแก่งชัดเจนมีโค้งสันทรายริมแม่น้ำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสสายน้ำโขงและธรรมชาติสองฝั่งอย่างใกล้ชิด ท่าเรือบริเวณลานจอดรถมีบริการเช่าเรือยนต์ล่องแม่น้ำโขงโดยใช้เวลาไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาหารเช่นไก่ย่าง ส้มตำ ลาบ โดยเฉพาะพล่า กุ้งเต้น ต้มยำปลาจากลำน้ำโขงเป็นอาหารแนะนำในราคาไม่แพง การเดินทางจากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไปแก่ง คุดคู้ได้ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร


เชียงคาน

เชียงคานเป็นเมืองเ็้กตั้งอยู่ในจังหวัดเลย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป้นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย เนื่องจากเชียงคานยังคงรักษาสภาพความเป็นอยู่และขนบธรรมเนียมเก่าแก่ ไว้ได้ดี


พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน  

ตั้งอยู่ในวัดโพนชัย ถนนแก้วอาสา ห่างจากอำเภอด่านซ้ายประมาณ 2 กิโลเมตรตัวพิพิธภัณฑ์เป็นบ้านเรือนไม้ จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองด่านซ้าย นิทรรศการผีตาโขน การสาธิตทำหน้ากากผีตาโขนและสินค้าของที่ระลึกผีตาโขนในรูปแบบต่างๆ สามารถเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น

 


พระธาตุศรีสองรัก  

ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงลักษณะศิลปกรรมแบบล้านช้าง องค์พระธาตุสูง 19.19 เมตร ฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังทรง “บัวเหลี่ยม” คล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวง(เวียงจันทน์) พระธาตุศรีโคตรบอง(แขวงคำม่วน) และอีกมากมายแถบลุ่มน้ำโขง พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (หมายถึงเจดีย์สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนา โดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 เสร็จในปีพ.ศ.2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ)และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย ทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ชาวด่านซ้ายหรือ “ลูกผึ้งลูกเทียน” จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักขึ้นโดยจะนำต้นผึ้ง (ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่เป็นทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตรงกลางติดดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ต่างเกสรดอกไม้สีสดใส ) เทียนเวียนหัว (เทียนแท่งที่ฟั่นยาวพอคาดได้รอบศีรษะ) มาถวายองค์พระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรีสองรัก คือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่ม สวมหมวกและสวมรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ ไม่ควรนำเด็กต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนมัสการ (หมายเหตุ : ก่อนท่านจะทำหรือประกอบพิธีใดๆ ที่เกี่ยวกับองค์พระธาตุ


เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง

ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ ภูหลวงประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 มีพื้นที่ประมาณ 560,593 ไร่สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี

 

 


สวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลย  
อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ภายในสวนหินผางามมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุ หลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “คุนหมิงเมืองเลย” นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำชมสวนหินผางามที่ศูนย์บริการ นักท่องเที่ยว ค่านำชม 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่ อบต.หนองหิน โทร. 08 1462 1719

น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว)
อยู่ห่างจากอำเภอประมาณ 25 กิโลเมตร บริเวณบ้านบ่อเหมืองน้อย เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงมาก เกิดจากลำน้ำเหือง บริเวณรอบ ๆ เป็นป่าทึบที่มีความอุดมสมบูรณ์
การเดินทาง ทางรถยนต์จากที่ว่าการอำเภอนาแห้วไปตามถนนสายนาแห้ว-ร่มเกล้า ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร และแยกขวาเข้าไปอีกประมาณ 13 กิโลเมตร เส้นทางตลอดสายเป็นทางลาดยาง จากนั้นเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตก

วัดศรีคุณเมือง  
อยู่ที่ถนนชายโขง ซอย 7 สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2485 วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก พระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25 นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์แกะสลักไม้ลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอด คล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม

วัดเนรมิตรวิปัสสนา  
ตั้งอยู่สูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง และมีพระอุโบสถขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามตามศิลปะภาคกลาง มีภาพจิตรกรรมที่สวยงามประดับอยู่โดยรอบ  มีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน และมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อพระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและได้มรณภาพแล้ว บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงาม

ศาลหลักเมืองเจ้าพ่อกุดป่อง  
เป็นศาลเก่าแก่เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตดวงวิญญาณเจ้าพ่อทองคำองค์เสาหลัก เมืองทำด้วยไม้ราชพฤกษ์ ความสูงจากฐานถึงยอด 179 เซนติเมตร ยอดเสาแกะสลักลงรักปิดทองทั้งองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมศาลเมื่อ พ.ศ. 2525 มีประชาชนเคารพนับถือเป็นจำนวนมาก

ัหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ  
หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ มีบ้านที่สร้างขึ้นตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆในชีวิตประจำวันที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ ในอดีตและยังมีการรวมกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองของชาวบ้าน โดยสามารถชมการทอผ้าและเลือกซื้อสินค้าเป็นของฝากได้ นักท่องเที่ยวที่สนใจที่จะสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ชาวไทดำแบบโฮมสเตย์ สามารถติดต่อได้ที่สมาคมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ โทร. 08 1048 2000 พัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ ราคา 300 บาท/คน การเดินทาง ใช้เส้นทางเลย-เชียงคานไปประมาณ 38 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางไปบ้านนาสีจนถึงบ้านาป่าหนาดอีกประมาณ 10 กิโลเมตร 

พระใหญ่ภูคกงิ้ว  
พระใหญ่ภูคกงิ้วเป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง 19 เมตร ตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2542 และในมหามงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี พ.ศ. 2543 สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544 บริเวณโดยรอบสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงและประเทศลาวได้  การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (เลย-เชียงคาน) ไป 47 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกตรงไปจนถึงบ้านท่าดีหมี่ และเลี้ยวขวาที่โรงเรียนบ้านท่าดีหมีไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

พระเจดีย์วัดป่าสัมมานุสรณ์  
อยู่บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังสะพุงไปตามถนนลาดยางสายอำเภอวังสะพุง-อุดรธานี ถึงสี่แยกโรงเรียนบ้านวังไห แยกซ้ายไปตามถนน รพช. อีก 8 กิโลเมตร พระเจดีย์วัดป่าสัมมานุสรณ์ สร้างตามแบบของกรมศิลปากรขนาดฐานองค์พระเจดีย์กว้างยาวด้านละ 25 เมตร สูง 33 เมตร ก่อสร้างด้วยโครงเหล็ก ก่ออิฐถือปูนและเคลือบด้วยกระเบื้องอย่างดี วัดป่าสัมมานุสรณ์นี้เป็นวัดป่าวิปัสสนากัมมัฏฐาน สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

น้ำตกสวนห้อมหรือน้ำตกสันติธารา  

อยู่ที่บ้านสวนห้อม การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับสวนหิน แต่อยู่เลยเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร น้ำตกสวนห้อมเป็นน้ำตกขนาดกลาง มองเห็นได้แต่ไกล ไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ บริเวณน้ำตกร่มรื่นเหมาะสำหรับพักผ่อน

 

 

 


น้ำตกเพียงดิน หรือ น้ำตกวิสุทธารา  

อยู่เลยสวนหินไป 2 กิโลเมตร น้ำตกเพียงดินเป็นน้ำตกขนาดกลาง แต่มีหลายชั้น บางชั้นก็ต้องปีนป่าย บางชั้นก็มีน้ำใสไหลเป็นแอ่ง ลงเล่นน้ำได้ไม่อันตราย บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เหมาะสำหรับพักผ่อน นั่งรับประทานอาหาร

 



ถ้ำโพธิสัตว์หรือกุ้ยหลินเมืองเลย  

ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านปวนพุ ตำบลปวนพุ การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับสวนหิน ห่างจากปากทางราว 9 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาเข้าไปตามทางลูกรัง 600 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายอีก 1.4 กิโลเมตร ก็จะถึงถ้ำ

ถ้ำแห่งนี้มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยเรียงรายอยู่ใต้ยอดเขา ทั้งหมด 15 คูหา แต่ละคูหามีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น เขาวงกต ถ้ำลับแล สวรรค์ชั้นต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหินย้อยรูปร่างสวยงามแปลกตาอีกมากมาย การเข้าชมนั้นควรติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ อบต.ก่อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้า และการเดินถ้ำวกวนมาก ใช้เวลาในการเดินชมอย่างน้อย 1 ชั่วโมง


ถ้ำมโหฬาร  

อยู่ที่บ้านหนองหิน ตำบลหนองหิน อยู่ในบริเวณวัดถ้ำมโหฬาร การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (เลย-ชุมแพ) พอถึงกิโลเมตรที่ 162-163 เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางลาดยาง ประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีบริเวณกว้างขวาง มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยสลับซับซ้อนมากมาย


น้ำตกธารสวรรค์  
อยู่ หลังโรงเรียนนาแห้ววิทยา ห่างจากอำเภอประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 15 เมตร บริเวณน้ำตกมีศาลาสำหรับพักผ่อน ตอนล่างมีก้อนหินน้อยใหญ่เรียงราย มีสาหร่ายและพันธุ์ไม้นานาชนิดขึ้นบริเวณริมฝั่งสองข้างทาง รถยนต์เข้าถึงบริเวณน้ำตกได้โดยสะดวก

 


น้ำตกคริ้ง  

อยู่ห่างจากอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่ติดกับถนนสายเหมืองแพร่-ร่มเกล้า บริเวณน้ำตกมีพืชพันธุ์นานาชนิดขึ้นริมฝั่งทำให้ดูมีความอุดมสมบูรณ์ มีก้อนหินเรียงกันเป็นชั้น ๆ ตอนล่างมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ มีศาลาพักผ่อนสำหรับผู้มาเยือน

 


อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
อยู่ในเขตอำเภอนาแห้ว มีพื้นที่ทั้งหมด 73,225 ไร่ ภูมิประเทศประกอบด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาวจากเหนือจรดใต้ สภาพป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้งที่มีไม้ผลัดใบผสม ตามพื้นที่สูงเป็นป่าดิบเขาเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างแผ่นดินไทย-ลาว สัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ เลียงผา หมาใน นกเหยี่ยว เต่าปูลู มีน้ำตกตาดเหืองที่ใหญ่โตสวยงามและเส้นทางเดินขึ้นภูสวนทราย ชมวิวทิวทัศน์ และร่องรอยประวัติศาสตร์การสู้รบของทหารไทยและลาว
สถานที่น่าสนใจภายในเขตอุทยานฯ ได้แก่

วัดโพธิ์ชัย
อยู่ที่ตำบลนาพึง การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 2113 (ด่านซ้าย-นาแห้ว) วัดนี้สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อประมาณปลายกรุงศรีอยุธยา พระพุทธรูปองค์แสนที่ประดิษฐานอยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสนั้น เป็นพระพุทธรูปโบราณคู่บ้านคู่เมืองมาหลายชั่วอายุคน ประทับขัดสมาธิราบ พระพักตร์ยาวรี ยอดพระเมฬีเป็นเปลวเพลิง พระสังฆาฏิเป็นท้องนาค สันนิษฐานว่าเป็นพระเชียงแสน นอกจากนี้ ภายในวิหารหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า อาราม มีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติและวรรณกรรมท้องถิ่นที่ผนังด้านทิศ เหนือมีจารึกว่าภาพเขียนดังกล่าวเขียนขึ้นเมื่อจุลศักราช 1214 ตรงกับพ.ศ. 2395 ตรงกับช่วงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและที่ด้านนอกพระอุโบสถ หลังเดียวกันนี้ยังมีภาพจิตรกรรม ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยหลังคือเมื่อปี พ.ศ. 2459 นับเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุที่มีค่ายิ่งแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย

น้ำตกแก่งสองคอน  
อยู่ที่บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข 2013 (ด่านซ้าย-นครไทย) อยู่เลยพระธาตุศรีสองรักไปราว 400 เมตร ทางเข้าอยู่ข้างวัดเนรมิตวิปัสสนา (เข้าทางเดียวกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กน้ำหมัน) เลี้ยวเข้าไปตามทางลูกรังอีก 3 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไป ลักษณะของน้ำตก เป็นธารน้ำกว้างไหลผ่านก้อนหินใหญ่น้อยมากมายลดหลั่นกันลงมาท่ามกลางต้นไม้ ใหญ่เขียวครึ้มทั่วบริเวณ มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน

น้ำตกปลาบ่า หรือ น้ำตกตาดสาน  

อยู่ที่หมู่ 1 บ้านปลาบ่า ตำบลปลาบ่า เป็นน้ำตกที่ตกมาจากแผ่นหินขนาดใหญ่ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างเหมาะสำหรับเล่น น้ำและนั่งพักผ่อนรับประทานอาหาร บริเวณน้ำตกยังไม่มีร้านอาหาร

การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข 203 (ภูเรือ-ด่านซ้าย) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 57-58 เลี้ยวซ้ายทางเดียวกับสถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ (บ้านกกโพธิ์) เข้าไปตามทางลาดยาง 7 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านปลาบ่า จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางลาดยางอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก


วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน  
อยู่ที่บ้านผาแบ่น  ตำบลบุฮม การเดินทาง ใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านผาแบ่นมีทางแยกเข้าบ้านอุมุง 3 กิโลเมตร จะถึงทางขึ้นเขาเป็นทางลูกรังระยะทาง 1 กิโลเมตร พระพุทธบาทภูควายเงินเป็นรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 65 เซนติเมตร ประดิษฐานบนหินลับมีด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อพ.ศ. 2478 รอยพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในแถบนี้มาก สมัยก่อนครั้งที่การเดินทางมานมัสการยังลำบาก เชื่อกันว่าคนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะเดินทางมากราบไหว้ได้ คนที่วาสนาไม่ถึงจะต้องมีเหตุให้มาไม่ได้ ทั้งที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่ก็ตาม บางคนก็หลงทาง ทุกปีในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 3 ทางวัดจะจัดงานสมโภชประจำปีถือเป็นงานสำคัญของชาวบ้านในแถบนี้

วัดท่าแขก  

เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากอำเภอเชียงคาน 2 กิโลเมตร ก่อนถึงหมู่บ้านน้อยและแก่งคุดคู้ ปัจจุบันเป็นวัดธรรมยุติ ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูป 3 องค์สกัดจากหินทรายทั้งก้อน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ มีอายุประมาณ 300 กว่าปี

 

 


พระธาตุสัจจะ  

ตั้งอยู่บริเวณวัดลาดปู่ บ้านท่าลี่ ตำบลท่าลี่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 201 แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2115 สายท่าลี่-อาฮี ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าลี่ประมาณ 2 กิโลเมตร องค์ประกอบของพระธาตุสัจจะ ประกอบด้วยดอกบัวบานมีกลีบ 3 ชั้น สูงประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่รอบองค์พระธาตุสัจจะ องค์พระธาตุสูง 33 เมตร มีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับพระธาตุพนม มีเศวตฉัตร 7 ชั้น ประดิษฐานไว้บนยอดสุดของพระธาตุสัจจะ

 

 


พระพุทธบาทถ้ำผาบิ้ง  
อยู่บริเวณวัดถ้ำผาบิ้ง บ้านผาบิ้ง ตำบลนาแก ห่างจากอำเภอวังสะพุง 9 กิโลเมตร กรมศิลปากรจดทะเบียนเป็นโบราณสถานพร้อมกับพระธาตุศรีสองรัก เมื่อ พ.ศ. 2498 เมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในถ้ำจะมองเห็นพระพุทธบาทขนาดใหญ่อยู่บนเพดาน ถ้ำ ลวดลายและนิ้วพระบาทไม่ปรากฏเด่นชัด ขนาดกว้าง 2 ฟุต ยาว 3 ฟุต การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 201 (อำเภอเมือง-วังสะพุง) แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 7 กิโลเมตร จะเห็นวัดอยู่ทางขวามือ

 
เสมาหินทรายที่บ้านปากแบ่งและบ้านนาหลัก  

บ้านปากแบ่งและบ้านนาหลัก ตำบลวังสะพุงอยู่ห่างกัน 4 กิโลเมตร โดยบ้านนาหลัก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือและบ้านปากแบ่งอยู่ทางทิศใต้ ทั้งสองแห่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่มานาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย ใบเสมาบ้านปากแบ่งพบครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ. 2508 ลักษณะใบเสมามีลวดลายสลักรูปบัวบนฐานแบบที่มีรูปพระสถูปเจดีย์ประทับอยู่ตรง กลางแผ่นเสมา โดยส่วนบนมีลักษณะรูปกรวยคล้ายกับยอดเจดีย์ที่พบในดินแดนอีสานทั่วไป ส่วนที่บ้านนาหลัก เป็นเสมาหินปักคู่สองหลัก แบบที่มีคู่สลักนูนขึ้นไปจากยอดเสมา เป็นรูปคล้าย ๆ กับสถูปเท่านั้นโดยไม่มีลวดลายใด ๆ และปี พ.ศ. 2519 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นได้นำไปเก็บรักษาไว้ 1 หลัก จึงเหลือไว้ในสถานที่เดิมเพียง 1 หลักเท่านั้น

กลุ่มเสมาหินที่พบในภาคอีสานแสดงให้เห็นถึงลักษณะ เฉพาะของวัฒนธรรมในภูมิภาคตั้งแต่โบราณ เสมาหินที่พบส่วนมากเป็นศิลปะวัตถุแบบทวาราวดีและลพบุรี


ศูนย์ศิลป์สิรินทร  

อยู่ภายในโรงเรียนศรีสงครามวิทยา บนเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ศูนย์ฯนี้เป็นสถานที่แสดงภาพเขียนของนักเรียนที่มีความสวยงามโดยสร้างชื่อ เสียงทั้งในประเทศและระดับโลกมาแล้ว ทั้งยังเป็นแหล่งความรู้ทางศิลปะวัฒนธรรมประกอบด้วยหอนิทรรศการถวรและหมุน เวียน อาคารฝึกปฏิบัติงานศิลปะ และร้านจำหน่ายผลงานศิลปะและของที่ระลึก โดยได้รับชื่อพระราชทานนามว่า"ศูนย์ศิลป์สิรินธร" จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การเดินทาง จากอำเภอวังสะพุงใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 210 (วังสะพุง-เอราวัณ) ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ศูนย์นี้จะอยู่ทางด้านขวามือ


ตลาดไม้ดอกไม้ประดับบ้านหนองบง  
เป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดอกเมืองหนาวและไม้ประดับตามฤดูกาลแหล่งใหญ่ที่สุด ของภูเรือ  นอกจากเป็นแหล่งขายส่งพันธุ์ไม้แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชมและเลือกซื้อไปปลูกตกแต่งบ้านหรือเป็นของฝากได้ ในช่วงฤดูฝนมีพันธุ์ไม้เด่น คือ ดอกกระเจียว ส่วนช่วงฤดูหนาว มีต้นคริสต์มาสทั้งสีแดง ขาว เหลือง กุหลาบ พิทูเนีย ฯลฯ การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข 203 (เลย-ภูเรือ) ระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 47 กิโลเมตร

กลุ่มทอผ้าไทเลยบ้านก้างปลา  

อยู่ที่บ้านก้างปลา มีการรวมตัวกันทอผ้าไทเลย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด มีการสาธิตการทอผ้า และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าผืน เสื้อบุรุษ ชุดสตรี ผ้าขาวม้า กระเป๋า เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0 4283 5104,0 9987 3701,0 1515 9010,0 6851 4872 การเดินทาง ใช้เส้นทางเลย-เชียงคาน (ทางหลวงหมายเลข 201) ออกจากตัวเมืองไปประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านก้างปลาไปอีก 1 กิโลเมตร


ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย  

ตั้งอยู่ในสถาบันราชภัฏเลย เป็นอาคาร 2 ชั้น รวบรวมและเผยแพร่เรื่องราวทางด้านศาสนา ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวเลยในหลาย ๆ ด้าน ภายในตัวอาคารศูนย์วัฒนธรรมมีการจัดแสดงแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

ส่วนแรก ห้องประชุมและฉายสไลด์เกี่ยวกับเมืองเลยและแสดงข้าวของเครื่องใช้

ส่วนที่สอง ห้องนิทรรศการชั่วคราวจัดแสดงเกี่ยวกับพระพุทธรูปเก่าที่ทำมาจากไม้ หินทราย ดินเผาและเงิน หน้ากากผีตาโขน ข้าวของเครื่องใช้โบราณ ซึ่งของทั้งหมดได้มาจากชาวบ้านในท้องถิ่นเมืองเลย นอกจากนี้ยังมีส่วนนิทรรศการหมุนเวียนทุก 3 เดือนโดยจัดแสดงเรื่องราวต่างๆของเมืองเลยตามเทศกาลประเพณี

ส่วนที่สาม มีห้อง “เบิ่งไทเลย” เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรถือเป็นส่วนสำคัญและจัดแสดงได้โดดเด่นที่สุด ภายในห้องขนาดใหญ่นี้จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับจังหวัดเลย เนื้อหาของนิทรรศการครอบคลุมในทุกด้านทั้งธรณีวิทยา ภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ ประเพณีและกลุ่มชาติพันธุ์ ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. ถ้าต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะต้องทำหนังสือแจ้งล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการ เข้าชม ติดต่อที่ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเลย สถาบันราชภัฎเลย ถนนเลย-เชียงคาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย 42000 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.0 4283 5223-8 ต่อ 1132

การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (เลย-เชียงคาน)


ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์  
ห่างจากตัวเมืองหนองบัวลำภูไปทางจังหวัดอุดรธานีประมาณ 17 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 210 เป็นหมู่บ้านที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม

 
สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ป่าเลิงใหญ  
สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ป่าเลิงใหญ่ อำเภอเมือง จ.เลย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ อยู่ตรงข้ามเทศบาลเมืองเลย มีการจัดสวนไม้ดอกไม้ประดับ พื้นที่รอบสวนสาธารณะติดแม่น้ำเลย นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านสะพานแขวนเข้าไปเที่ยวชมได้

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผานาง - ผาเกิ้ง
ตั้งอยู่ที่อำเภอเอราวัณ เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ภายในโครงการทีการทอผ้าไหม เครื่องหัตกรรม และเครื่องครัวที่ผลิตจากไม้ไผ่และไม้สัก โรงเพาะเห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า ฯลฯ โดยมีสินค้าจำหน่ายที่ร้านค้าของโครงการ และมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การตกปลา ขี่จักรยานท่องเที่ยว และชมทิวทัศน์รอบบริเวณโครงการและมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ทั้งแบบเรือนพัก และกางเต็นท์ เปิดตั้งแต่เวลา 8.00-16.00 น.

สะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว  
นักท่องเที่ยวสามารถข้ามสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว ไปเที่ยว สปป.ลาว ได้ที่ด่านพรมแดนบ้านนากระเช็ง ด่านศุลกากรท่าลี่ โดยคนไทยที่ข้ามไปเที่ยวเฉพาะร้านค้าชายแดนของลาวที่อยู่บริเวณสะพาน ไม่ต้องทำใบผ่านแดน 
กรณีที่ต้องการทำบัตรผ่านแดน สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ 3 วัน 2 คืน ใช้เอกสารหลักฐานคือ บัตรประจำตัวประชาชน  กรณีใช้พาสปอร์ต อยู่ได้ 30 วัน  กรณีนำรถยนต์เข้าและการทำธุรกิจ ใช้เอกสารและดำเนินการเหมือนด่านพรมแดนทั่วไป และควรสอบถามการนำสิ่งของที่ถือว่าผิดกฎหมายไปนอกพรมแดนด้วย ด่านพรมแดนบ้านนากระเช็งเปิดเวลา 8.00-18.00 น.