WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

อุทยานแห่งชาติปางสีดา

ถ่ายรูปผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติปางสีดา

  • แหล่งจระเข้น้ำจืด มีแห่งเดียวในประเทศไทยคือ ในอุทยานปางสีดา ผมยังไม่เคยเข้าไป เพราะคนละเส้นทางกับทางเข้าอุทยาน ต้องเลี้ยวซ้ายก่อนถึงสามแยกคือ เลี้ยวที่แยกคลองผักขม - ทุ่งโพธิ์ ตรงไปยังหมู่บ้านวังทะลุ ไปจนถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน ปด.๑ แล้วเลยต่อไปทางเขาเจดีย์
    ส่วนถนนสายเข้ามาในอุทยานคือ สาย ๓๔๖๒ นี้ตัดผ่านอุทยานไปออกได้ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนคราชสีมา แต่ฤดูฝนรถเก๋งคงจะไปไม่ได้ วันหลังผมจะไปใหม่ตอนไปดูผีเสื้อ
    เที่ยวน้ำตกปางสีดา อยู่ห่างจากที่ทำการ อช. เพียง ๘๐๐ เมตร ขับรถไปจอดที่ลานลงน้ำตกมีห้องสุขาบริการพร้อม เดินลงไปประมาณ ๖๐ เมตร ทางไม่ชันนัก ตกลงมาจากผาหิน ๓ ชั้น สูงประมาณ ๑๐ เมตร ในฤดูฝนสวยมาก ฤดูแล้งคงขนาดช้างเยี่ยว บรรยากาศร่มรื่น ชาวสระแก้วหิ้วขวด หิ้วกระติกน้ำแข็ง หิ้วอาหารลงไปนั่งกินกัน ใครไปช้าหาที่นั่งไม่ได้ กลับมานั่งกินกันที่ข้าง ๆ รถ

  • ชมผีเสื้อ ไปน้ำตกไปฤดูฝน หรือปลายฝนต้นหนาวจะสวยที่สุด น้ำจะใส แต่หากไปชมผีเสื้อ ซึ่ง อช.ปางสีดา เป็นแหล่งชมผีเสื้อสำคัญอีกแห่งไม่แพ้ อช.แก่งกระจาน ได้พบผีเสื้อกลางวันแล้วไม่น้อยกว่า ๓๕๐ ชนิด ดูผีเสื้อดูได้ตั้งแต่เช้ายันเย็นเหมือนการดูนก จุดชมผีเสื้อห่างจากจุดจอดรถประมาณ ๕๐ เมตร อยู่ข้างทาง มีเทศกาลดูผีเสื้อจัดขึ้นปีละ ๒ ครั้ง คือ ในฤดูแล้ง ยิ่งแล้งฝนไม่ตก ผีเสื้อจะออกมามาก ส่วนเทศกาลครั้งที่ ๒ ช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม ฝนเริ่มตกแล้ว ผีเสื้อจะมีน้อยกว่า เขาก็จัดกิจกรรมอื่นร่วมไปด้วย เช่น นำสินค้าโอท๊อปมาจำหน่าย และสามารถล่อให้ผีเสื้อออกมาให้เห็นได้ ด้วยการใช้ดอกไม้ ผลไม้ (เน่ายิ่งดี) สับปะรด มะละกอ วางล่อผีเสื้อได้ทั้งนั้น หรือจะแอบเอาฉี่ของเราเอง ราดทรายกลิ่นก็จะล่อผีเสื้อได้ กิจกรรมที่เขาจัดเพื่อให้คนไปชมผีเสื้อมากขึ้น จัดในวันเสาร์ อาทิตย์ เช่น ในปี ๔๙ ที่ผ่านมา เดือน มิย. - ก.ค. เขาจัดสัปดาห์ดูผีเสื้อควบไปกับโอท๊อป ผีเสื้อกับมรดกโลก มรดกทางธรรมชาติ มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติ ๔ แห่ง และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอีก ๑ แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี นครราชสีมา สระแก้ว และบุรีรัมย์ คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จัดดูผีเสื้อควบกับกิจกรรมกีฬา เป็นต้น
  • ชมน้ำตก เล่นน้ำตกในแอ่งที่ไม่มีอันตราย หรือดูผีเสื้อ ชมวิวจนอิ่มแล้ว ก็กลับออกมาตามเส้นทางเดิม พอถึงสามแยกหากจะกลับเข้าเมืองสระแก้วก็เลี้ยวขวา แต่หากจะไปเที่ยวต่อ หรือไปวัฒนานคร ไปอรัญประเทศ ไปบุรีรัมย์ก็เลี้ยวซ้าย ไปตามถนนสาย ๓๔๘๕ เพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำท่ากระบาก เลี้ยวมาประมาณ ๕ กม. จะพบทางแยกซ้าย ดูจากป้ายปากทาง เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วก็ตรงเรื่อยไป จนชนกับอ่างเก็บน้ำที่สามแยก ระหว่างทางจะเห็นคลองส่งน้ำ มีน้ำไหลเหมือนน้ำตกน้อย ๆ ไปตลอดทาง ทางด้านซ้ายก็จะเป็นหนองน้ำเป็นหย่อม ๆ เมื่อถึงสามแยกหากเลี้ยวซ้ายก็จะไปยังที่ทำการของชลประทาน ในวันหยุดจะเห็นชาวเมืองเป็นส่วนใหญ่มาลงเล่นน้ำกัน เล่นน้ำตกว่ายไม่ได้ แต่เล่นน้ำในอ่างเก็บน้ำว่ายน้ำได้ และมีห่วงยางคล้องตัว เล่นน้ำกัน พื้นน้ำกว้าง วิวสวย เพราะอีกด้านเป็นเทือกเเขา หากถึงสามแยกแล้ว ไม่เลี้ยวซ้ายมาเล่นน้ำ เลี้ยวขวาวิ่งข้ามสันอ่างเก็บน้ำไป ก็จะมีที่เล่นน้ำ เล่นเรือได้ มีร้านอาหารและหากเลยต่อไปอีก ก็จะไปถึงสถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่า ช่องกล่ำบน เขตอำเภอวัฒนานคร สถานที่นี่เป็นโครงการในพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าที่จะเพาะเลี้ยงสัตว์ปีกหายาก และใกล้จะสูญพันธุ์เอาไว้ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ เว้นเวลาหวัดนกระบาด จะปิดชั่วคราว สัตว์ใกล้สูญพันธุ์มีทั้งสัตว์ปีก ไก่ฟ้าชนิดต่าง ๆ ไก่ป่า นกยูง นกขุนทอง เป็ดก่า และยังมีสัตว์อื่น เช่น ลิง เก้ง กวาง เนื้อทราย หมาจิ้งจอก เป็นต้น
น้ำตกปางสีดา
 

  • น้ำตกปางสีดา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 800 เมตร เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผา 3 ชั้น สูงประมาณ 10 เมตร ตัวน้ำตกไหลลงสู่เบื้องล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่และลานหินบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การเล่นน้ำ และจะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน
    น้ำตกผาตะเคียน อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากน้ำตกปางสีดาประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถเดินทางเท้าได้ 2 เส้นทาง มีป้ายบอกตลอดเส้นทางทุกๆ 300 เมตร ตลอดเส้นทางขึ้นสู่น้ำตกร่มรื่นด้วยแมกไม้หนาทึบ เป็นน้ำตกชั้นสุดท้ายที่อยู่สายเดียวกับน้ำตกปางสีดา น้ำตกทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตรเหมาะสำหรับเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
    ทุ่งหญ้าโป่งกระทิง เดิมเป็นหมู่บ้านเก่าที่กลายเป็นทุ่งหญ้ารกร้าง ภายหลังอพยพผู้คนออกไปมีลักษณะคล้ายทุ่งหญ้าที่มอสิงโตในอุทยานแห่งชาติเขา ใหญ่ มีสัตว์ป่าออกหากินบริเวณนี้เป็นจำนวนมากทางอุทยานฯ ได้ทำโป่งเทียมและหอดูสัตว์ไว้ จากถนนภายในอุทยานฯ มีทางแยกบริเวณกิโลเมตรที่ 35 และกิโลเมตรที่ 6 แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติโป่งกระทิงซึ่งมีโป่งธรรมชาติที่อาจพบสัตว์ป่าได้ ไม่ยาก 


    น้ำตกถ้ำค้างคาว จากที่ทำการถึงหลักกิโลเมตรที่ 22 ให้เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกมีค้างคาวอาศัยอยู่ในถ้ำมากมาย เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งตั้งอยู่กลางป่าลึกใช้เวลาเดินทางไปกลับ 3 วัน 2 คืน ติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ
    น้ำตกทับซุง เป็นน้ำตกแห่งใหม่ของอุทยานฯ น้ำตกทับซุง เป็นน้ำตกแห่งใหม่ของอุทยานฯ ระหว่างทางเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติมีพรรณไม้หลากหลายชนิด อยู่ช่วงกิโลเมตรที่ 22 แล้วเดินเท้าอีก 1.5 กิโลเมตรจุดชมวิว เป็นหุบเขากว้าง ห่างจากที่ทำการไปประมาณกิโลเมตรที่ 25 และกิโลเมตรที่ 35 สามารถชมภูมิประเทศโดยรอบ และชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ สามารถขับรถไปได้จากที่ทำการอุทยานฯกลุ่มน้ำตกแควมะค่า จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 40 ให้เดินเท้าต่ออีกประมาณ 6 กิโลเมตร ตัวน้ำตกทิ้งตัวจากหน้าผาสูงประมาณ 70 เมตร เหมาะสำหรับเดินป่า และสามารถกางเต็นท์ได้ ใกล้ๆ กันยังมีน้ำตกรากไทรย้อย ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 500 เมตร น้ำตกลานหินใหญ่ ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 1.5 กิโลเมตร น้ำตกสวนมั่น สวนทอง ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 3 กิโลเมตร และน้ำตกม่านธารา ห่างจากน้ำตกแควมะค่า ประมาณ 4 กิโลเมตร กลุ่มน้ำตกแห่งนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากเป็นกลุ่มน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในผืนป่า ภูเขาเจดีย์ เป็นการรวมตัวของกลุ่มก้อนหิน มีรอยแตกคล้ายกับหินที่ภูหินร่องกล้า สูงประมาณ 4 เมตร มีเส้นรอบวง 25 เมตร อยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ปด.1 (แก่งยายมาก) ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 50 กิโลเมตร แหล่งจระเข้น้ำจืดแก่งยายมาก ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าทางไปหมู่บ้านคลองผักขม-ทุ่งโพธิ์ อีกประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นแหล่งจระเข้น้ำจืดที่ได้สำรวจพบตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2534 ที่ยังเหลืออยู่ที่บริเวณป่าห้วยน้ำเย็น ซึ่งมีหอดูดาวไว้บริการอยู่ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ปด.1 (แก่งยายมาก)
    แหล่งดูผีเสื้อ อุทยานฯได้จัดเส้นทางแนะนำเพื่อดูผีเสื้อที่มีกว่า 250 ชนิด ได้แก่บริเวณน้ำตกปางสีดา น้ำตกลานหินดาด ห้วยน้ำเย็น และแหล่งน้ำซับ กม.26 ในช่วงต้นฤดูฝนมีการจัดเทศกาลดูผีเสื้อที่อุทยานแห่งชาติปางสีดาด้วยค่าเข้าอุทยานฯ คนไทย ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท เด็ก คนละ 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ คนละ 200 บาท เด้ก คนละ 100 บาท

    ทางอุทยานฯ มีบริการบ้านพัก ในอัตราคืนละ 1,200 บาท และมีสถานที่ให้กางเต็นท์ในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ บริการแก่นักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 อุทยานแห่งชาติปางสีดา โทร. 0 3724 3775. 0 3724 6100 หรือ www.dnp.go.thการเดินทาง
    รถยนต์ จากตัวเมืองสระแก้วใช้ทางหลวงหมายเลข 3462 ขึ้นไปทางทิศเหนือระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร อุทยานฯ จะอยู่ทางขวามือรถโดยสารประจำทาง สามารถใช้บริการรถสองแถวโดยสารสายสระแก้ว-บ้านคลองน้ำเขียวจากสถานีขนส่ง ระหว่างเวลาประมาณ 09.00-15.30 น. ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ค่าโดยสารคนละประมาณ 25 บาท หรือเหมารถสองแถวคันละประมาณ 300 บาทรถไฟ สายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ลงที่สถานีรถไฟจังหวัดสระแก้ว จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางสายสระแก้ว-บ้านคลองน้ำเขียว ไปประมาณ 27 กิโลเมตร จนถึงที่ทำการอุทยานฯ