WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

 

พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชายโสธร “พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก” ถูกออกแบบและก่อสร้างเป็นรูปคางคก ซึ่งเป็นมีลักษณะเด่น และแปลกตา ชวนน่าเที่ยว พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก เป็นที่จัดแสดง นิทรรศการบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟ โดยจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และ นิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่างๆ ที่พบได้ในเมืองไทย ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ อพวช. ร่วมศึกษากับมหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่อาจเพิ่มไปถึงคางคกชนิดต่างๆ ที่พบได้ทั่วโลกซึ่งมีกว่า 500 ชนิด รวมทั้งรวบรวมของดีทางด้านเกษตรกรรมของเมืองยโสธรไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย อาทิ จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดที่เกิดขึ้นก่อนจังหวัดอื่นๆ ในอีสานใต้ ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีชื่อว่า "ยศโสธร" ก่อนย่อเป็นยโสธร หรือเป็นจังหวัดที่มีข้าวหอมมะลิอร่อยที่สุดในประเทศไทย

ความเป็นมาของ พญาคันคาก
"ตามตำนานชาวอีสาน เชื่อว่าโลกมีโลกมนุษย์และโลกเทวดา โดยโลกมนุษย์อยู่ใต้โลกเทวดา และเรียกเทวดาว่า ′แถน′ ส่วนฟ้าฝนหรือลมนั้นเป็นอิทธิพลของแถน การที่พญาแถนไม่ปล่อยฝนให้ตกลงบนโลกมนุษย์ ทำให้พญาคันคาก อาสานำสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง ม้า วัว ควาย ปลวก ผึ้ง ต่อแตน ขึ้นไปรบกับพญาแถนจนชนะ และปล่อยให้ฝนตกตามเดิม แต่มีข้อแม้ว่าต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบอกกล่าว จึงเป็นที่มาของประเพณีบั้งไฟ"

"คางคกเป็นสัตว์ที่คนส่วนใหญ่เกลียด เป็นอุบายของคนโบราณที่จะแต่งเรื่องนี้ให้คนหันมาอนุรักษ์คางคก ไม่ฆ่าคางคก เพราะคางคกเป็นสัตว์กินแมลง คางคกในประเทศไทยมี 32 พันธุ์ จะเอามาโชว์ให้หมดเลย สุดท้ายคือ ของดีเมืองยโสธร ซึ่งมี ข้าวหอมมะลิ แตงโมหวาน แล้วก็มีปลาส้ม คือนอกจากให้ความรู้ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจการขายสินค้า" นายสาครกล่าวถึงแนวคิดในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานพญาคันคาก ซึ่งสามารถรบเอาชนะพญาแถน เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ ทั้งยังเกี่ยวพันกับกำเนิดพิธีกรรมการยิงบั้งไฟ และเสริมว่า

การยิงบั้งไฟไม่ได้มีแค่ไทย เขมรก็มี ลาวก็มี เราต้องช่วงชิง เพราะต่อไปจะไร้พรมแดน ประเทศไทยจะต้องช่วงชิงมาก่อน เหมือนกับมวยไทย ที่พม่าก็มี มาเลย์ก็มี เมื่อก่อนเรียก ‘คิก บ็อกซิ่ง’ แต่ตอนนี้เรียก ‘มวยไทย’